บุ๊คก้าพาตะลุย
“ฮ่องกง”
เขตปกครองพิเศษในประเทศจีน ที่บุ๊คก้าเชื่อว่าหลายคนต้องเคยไปมาแล้ว
แต่ครั้งนี้บุ๊คก้าจะพาไปตะลุยในสไตล์บุ๊คก้า ^_^ เที่ยวชิลชิล ชมวิวไปเรื่อย ด้วยเส้นทางการคมนาคมที่หลากหลายในฮ่องกง พร้อมไหว้พระวัดดังอธิฐานขอพรให้ได้สมดังใจ และที่ไม่พลาดแน่ๆ คือเรื่องช้อปปิ้ง ที่จะพาตะลุยไปช้อปทุกย่านฮิตในฮ่องกง ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ใช้เวลาแค่ 3 วัน 2 คืน ไปง่ายไม่ต้องลางานยาว
ข้อมูลควรรู้ก่อนออกเดินทาง
1. ตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกง สำหรับทริป 3 วัน 2 คืน เราจะหาเที่ยวบินที่บินตรงไปถึงตอนเช้า เพื่อเริ่มเที่ยวได้เลย และเลือกตั๋วขากลับเป็นขาดึกสุด จะได้มีเวลาเที่ยวได้นานๆ บุ๊คก้าเจอตั๋วราคาถูกที่ Traveloka เลือกบินกับสายการบิน AirAsia สายการบิน Low Cost ราคาประหยัดสุดๆ ยังไงลองคลิกไปเช็คราคาได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/airasia
2. ที่พักในฮ่องกง เราเลือกพักในย่าน จิมซาจุ่ย เพราะในย่านนี้มีที่พักราคาถูกเยอะ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง สถานที่เที่ยว และมีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ลองเช็คที่พักราคาถูกในเว็บ Traveloka ดูก่อน มีเยอะมาก https://www.traveloka.com/th-th/hotel/hong-kong/region/hong-kong-10011651
3. การเดินทางในฮ่องกง มีการเดินทางหลายรูปแบบทั้ง MRT, รถบัสโดยสาร, เรือข้ามฝาก, รถราง, รถตู้ และแท๊กซี่ ทุกอย่างที่ว่ามานี้สามารถจ่ายด้วยเงินสด หรือเพื่อความสะดวกในการเดินทางแนะนำให้ใช้บัตร Octopus card จ่าย เพราะแค่แตะก็จบ ไม่ต้องรอเงินทอน สะสมเหรียญให้ยุ่งยาก
ข้อมูลเพิ่มเติม
- Octopus card นอกจากใช้จ่ายค่าเดินทางในฮ่องกงแล้ว ยังสามารถจ่ายร้านค้าและร้านอาหารได้ทั่วทั้งเกาะฮ่องกง (ดูรายละเอียดออกบัตร > คลิกที่นี่)
- รถไฟใต้ดิน MRT ในฮ่องกง (เช็คเส้นทางและราคาค่าโดยสาร > คลิกที่นี่)
- เรือข้ามฝากและเรือโดยสารในฮ่องกง (เช็คเส้นทางและราคาค่าโดยสาร > คลิกที่นี่)
- รถบัสในเกาะฮ่องกง (เช็คเส้นทางและราคาค่าโดยสาร > คลิกที่นี่)
- รถบัสไปกลับสนามบิน (เช็คเส้นทางและราคาค่าโดยสาร > คลิกที่นี่ / เช็คป้ายจอดรถบัส > คลิกที่นี่)
- รถรางขึ้น The Peak (ดูรายละเอียดและราคา > คลิกที่นี่)
- กระเช้า Ngong Ping (ดูรายละเอียดและราคา > คลิกที่นี่)
- รถรางในฮ่องกง (เช็คเส้นทางและราคาค่าโดยสาร > คลิกที่นี่)
หลังจากที่เราจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักเรียบร้อยแล้วก็มาออกเดินทางเที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเองกันเลยดีกว่า
Day1
Airport > Ngong Ping > Citygate Outlets > Tsim Sha Tsui
เริ่มออกเดินทาง สำหรับเที่ยวบินที่บุ๊คก้าเลือกเดินทางครั้งนี้คือ Airasia เที่ยวบิน 6.35 น. (ส่วนขากลับเลือกเที่ยวบิน 21.35 น.) เป็นสายการบินที่บินตรง กรุงเทพดอนเมือง ไปสนามบินฮ่องกง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที จากภาพด้านล่างนี้ เราจะไปถึงฮ่องกงตอน 10 โมง 15 นาที (เวลาฮ่องกงจะเร็วกว่าบ้านเรา 2 ชั่วโมง อย่าลืมตั้งนาฬิกากันดีๆ จะได้ไม่พลาดตกเครื่องขากลับนะคะ)
ออกจากสนามบิน เราก็เดินไปขึ้นรถบัสสาย S1 ที่หน้าสนามบิน เพื่อไปลงที่ป้าย Tung Chung รถจะวิ่งไปจอดสุดสาย ที่ Citygate Outlets เลยค่ะ
พอถึง Citygate Outlets แล้วให้เราเอากระเป่าไปฝากไว้ที่ Locker กันก่อน (Locker อยู่ที่ชั้น B2 และ B3 ฝั่ง South Car Park ให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า – 5 ทุ่ม) จำนวนตู้ Locker ราคากับขนาดของ Locker ตามภาพด้านล่างนี้ ถ้าใครไปช้าแล้ว Locker เต็มก็ต้องหิ้วขึ้นไปบน Ngong Ping ด้วยแล้วไปหาที่ฝากบน Ngong Ping อีกที เห็นคนใน Pantip บอกว่าฝากที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว Ngong Ping ได้ค่ะ
ฝากกระเป๋าเสร็จแล้วเราก็ไปเที่ยวกันต่อเลย บุ๊คก้าขอแนะนำเส้นทางการขึ้นไปท่องเที่ยวและสักการะพระใหญ่บนนองปิงด้วยเส้นทาง ขาไปด้วยกระเช้า Ngong Ping แล้วกลับลงมาด้วยรถบัสสาย 23
ค่าเดินทางด้วยกระเช้า Ngong Ping ขึ้นราคาแทบทุกปี ยังไงลองเช็คราคากันก่อนเดินทางอีกที ล่าสุดที่บุ๊คก้าเช็คมา ราคาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2019 แบบ Standard Cabin 160 HKD ส่วนแบบ Crystal Cabin 215 HKD
หรือซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ แล้วไปแลกตั๋วที่เคาน์เตอร์ จะได้รับตั๋วเร็วขึ้น และราคาประหยัดขึ้นด้วยค่ะ > เช็คราคาตั๋วออนไลน์
วิวบนกระเช้า ถ้าวันฟ้าเปิดจะสวยมาก แต่ถ้าฟ้าปิด บางทีก็จะไม่เห็นองค์พระกันเลยทีเดียว
บนนองปิงจะมีที่เที่ยวหลายจุด แต่จุดที่บุ๊คก้าจะแนะนำก็คือ วัดโป๋หลิน เพื่อไปสักการะพระใหญ่แห่งเกาะลันเตา หรือที่เรียกอีกชื่อว่า พระพุทธรูปเทียนถาน (Tian Tan Buddha Statue หรือ Big Buddha)
ข้อมูลเพิ่มเติม : เดิมทีอารามโป๋หลินเป็นเพียงอารามที่อยู่ห่างไกล และหลบลี้ผู้คนด้วยทัศนียภาพที่เป็นป่าและภูเขา แต่อารามนี้ได้มีชื่อเสียงและปรากฏอยู่บนแผนที่โลกเมื่อมีการสร้างพระพุทธรูปเทียนถานที่มีความพิเศษ (มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่าพระใหญ่) ในปี 1993 พระพุทธรูปสำริดอันสง่างามนี้มีความสูง 34 เมตรและหันพระพักตร์ไปทางเหนือเพื่อเฝ้าดูชาวจีน เป็นที่ดึงดูดพุทธศาสนิกชนจากทั่วทั้งเอเชีย กิริยาต่างๆ ขององค์พระ ได้แก่ พระเนตร พระโอษฐ์ การเอียงพระเศียร และพระหัตถ์ขวายกขึ้นให้พรแก่คนทั่วไป ได้ทำให้องค์พระใหญ่มีลักษณะอ่อนโยนและสง่างามอย่างลุ่มลึก โดยต้องใช้เวลาการก่อสร้างถึง 12 ปี หากคุณอยากจะสำรวจพระพุทธรูปที่โดดเด่นนี้อย่างใกล้ชิดขึ้น ให้ขึ้นบันไดไปอีก 268 ขั้น และยังจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทิวเขาและทะเลจากบริเวณฐานขององค์พระด้วย
“คนฮ่องกงเชื่อว่า ถ้าได้มานมัสการสักการะองค์พระใหญ่แล้ว ชีวิตจะมีแต่ความโชคดี”
หลังจากไหว้พระเสร็จแล้วเราก็เดินลึกเข้าไปเพื่อไป Wisdom Path หรือ ทางเดินแห่งปรัชญา เส้นทางเดินนี้จะเป็นทางเดินป่า อากาศดี เงียบสงบ ยิ่งถ้าไปช่วงหน้าหนาวจะยิ่งฟิน เมื่อเราเดินเข้าไปถึงจุด Check point ที่ทุกคนต้องแวะไปถ่ายรูปนั่นคือ เสาไม้ 38 ต้น ที่สลักปรัชญาจีนเอาไว้ โดยวางเรียงกันเป็นเลข 8 หรือสัญญาลักษณ์ Infinity จุดนี้เป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยมากๆ ไปถึงแล้วห้ามพลาดเลยทีเดียวนอกจากสองที่ที่เล่ามา บนเกาลันเตายังมีที่เที่ยวอีกหลายจุด ดูรายละเอียดเพิ่มเติม > คลิกที่นี่
เที่ยวกันเสร็จแล้วเราก็นั่งรถบัสสาย 23 ลงมาที่ Citygate Outlets
เพื่อช้อปปิ้งกันต่อ เช็คข้อมูลร้านค้า > คลิกที่นี่ช้อปกันไปถึง 5-6 โมงเย็น ก็ได้เวลาออกเดินทางไปที่พักกันแล้ว เราเลือกพักในย่าน Tsim Sha Tsui (จิมซาจุ่ย) จาก Citygate outlets สามารถโดยนั่ง MKT ไปลงที่สถานี Tsim Sha Tsui ได้เลย
หลังจากเช็คอินที่พักเสร็จก็ได้เวลาแห่งความบันเทิงแล้ว ในโซนนี้จุดที่เป็น Highlight จะมีอยู่ 2 จุดในเส้นปะสีขาวตามภาพนี้ ด้านซ้ายคือโซนช้อปปิ้ง ส่วนที่มุมบนขวานั่นคือจุดชมวิวและดูการแสดงไฟ หรือที่เรียกว่า The Symphony of Lights
The Symphony of Lights เปิดแสดงทุกวัน เวลา 20.00 น. (ใช้เวลาแสดง 13 นาที)
หลังจากดูไฟ ช้อปปิ้ง หาของกินกันเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันเข้านอนเพื่อเก็บแรงไว้เที่ยววันต่อไป
Day2
Star ferry > The Peak > Repulse Bay > Causeway Bay
เริ่มต้นวันที่ 2 ด้วยการออกเดินทางด้วยการนั่งเรื่อข้างฟากจากย่าน Tsim Sha Tsui ที่ท่าเรือ Star Ferry ไปลงที่ท่าเรือ Central
รายละเอียดเวลาเที่ยวเรือข้ามฟาก และราคา
พอข้ามเรือไปถึง Central Piers แล้วก็เดินไปขึ้นรถบัสสาย 15C (ป้ายรถบัสอยู่แถวๆ ท่าเรือ 7)
ข้อมูลแนะนำ : สำหรับการเดินทางขึ้นจุดชมวิว The Peak สามารถเดินทางได้ 2 แบบคือการนั่งรถบัสสาย 15C หรือขึ้นรถราง Peak Tram จากที่บุ๊คก้าเคยลองนั่งทั้ง 2 แบบแล้ว บุ๊คก้าว่าการเดินทางด้วยรถบัส เพราะสะดวกมากกว่า ไม่ต้องเดินไกล ไม่ต้องรอคิวนานเหมือน Tram และราคาถูกกว่าด้วยค่ะ
บนจุดชมวิว The Peak มีร้านค้า ร้านอาหาร จุดชมวิว Madness 3D Adventure และMadame Tussauds ถ้าใครชอบความบันเทิงแนวนี้ก้ลองดูรายละเอียดและแพ็คเกจกันก่อนที่ลิ้งค์นี้นะคะ > คลิกที่นี่
หลังจากเที่ยวจุดชมวิว The Peak แล้วก็นั่งรถสาย 15 ไปลงที่ Exchange Square Tower (สุดสาย) จากนั้นต่อรถบัสสาย 6,6A,6X,260 ไปลงที่ Repulse Bay
สำหรับที่ Repulse Bay เป็นชายหาดยอดนิยมของชาวฮ่องกง และยังมีวัดเจ้าแม่กวนอิม ที่คนไทยนิยมไปสักการะขอพร และนอกจากเจ้าแม่กวนอิมแล้วในบริเวณวัดก็ยังมีเจ้าแม่ทับทิม, พระสังกัจจายน์, เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ฯลฯ ให้ได้กราบไหว้สักการะกันอีกด้วย
วิธีขอพรแบบต่างๆ
เจ้าแม่กวนอิม – ขอพรโดยให้ยืนอยู่บริเวณกระเบื้องบนพื้นและหันหน้าให้ตรงกับหน้าเจ้าแม่กวนอิมให้มากที่สุด
รูปปั้นปลาสีเหลือง – โดยโยนเหรียญให้เข้าปากปลาได้ คำอธิษฐานที่ขอพรไว้กับเจ้าแม่กวนอิมถึงจะเป็นจริงตามที่ตั้งใจ
สะพานอายุยืน – เดินข้ามสะพานสีแดงนี้ไปจะมีอายุยืนขึ้นอีก 3 ปี โดยก้าวเท้าซ้ายเดินขึ้นสะพานข้ามไปยังอีกฝั่ง และห้ามเดินย้อนกลับเด็ดขาด
ลูกแก้วในปากสิงโตด้านหน้าวัด – เสริมโชคลาภด้วยการหมุนลูกแก้วที่อยู่ในปากสิงโตตัวทางขวาของประตูทางเข้า เพื่อให้มีโชคภาพ และมีเงินทองเข้ามาหาตัวเองและครอบครัว
หลังจากสักการะขอพรเรียบร้อยแล้ว ให้ก็นั่งรถบัสสาย 15 กลับมาที่ Exchange Square Tower ตอนนี้ก็ได้เวลาช้อปปิ้งกันอีกแล้ว เดินออกมาหน้าตึกแล้วขึ้นสะพานลอยเดินไปทาง MRT Central เพื่อนั่งรถรางที่ป้าย Pedder Street (27E) ไปลงที่ป้าย Percival Street (51E) จากนั้นก็ช้อปปิ้งกินข้าวกันให้เต็ม
แล้วอย่าลืมเผื่อเวลา และเก็บแรงไว้ไปเก็บกระเป๋าที่ที่พัก เพราะว่าพรุ่งนี้เราต้องเช็คเอาท์กลับบ้านกันแล้วน้า
Day3
Wong Tai Sin Temple > Che Kung Temple > Mong Kok > Airport
เริ่มเช้าวันที่ 3 วันนี้เราต้องเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้ว ฉะนั้นให้เช็คเอาท์และลากกระเป๋าไปฝากไว้ที่ล็อบบี้ ก่อนออกไปเที่ยว วันนี้ทั้งวันเราจะใช้รถไฟใต้ดิน MRT เป็นหลัก จุดหมายแรกของเราวันนี้คือ วัดหวังต้าเซี่ยน (Wong Tai Sin Temple) วิธีเดินทางก็ง่ายมากโดยนั่ง MRT จาก Tsim Sha Tsui ไปลงที่สถานี Wong Tai Sin ก็ถึงหน้าวัดเลย
เทพเจ้าที่สถิตย์อยู่ที่วัดหวังต้าเซียนมีทั้งหมด 5 ที่คือ เทพเจ้าหวังต้าเซียน, เจ้าแม่กวนอิม, เจ้าที่, เทพเจ้าหยุคโหลว (เทพเจ้าแห่งความรัก), ท่านขงจื้อ
จากนั้นเราก็กลับมานั่ง MRT ไปสถานี Tai Wai (ออกปะตู B แล้วเดินเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ) เพื่อเดินทางไปวัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว (Che Kung Temple)
วิธีการไหว้เทพเจ้าแชกง
- ให้ยืนหน้ารูปปั้นขนาดของท่านแชกง แล้วอธิษฐานขอพรและมองหน้าท่านอย่างมุ่งมั่น
- จากนั้นเดินไปหมุนกังหันแชกง โดยใช้นิ้วชี้หมุนกังหัน ถ้าชีวิตในปีที่ผ่านมาไม่ดี ให้ใช้มือซ้ายหมุนด้านซ้ายไปขวา ถ้าชีวิตดีอยู่แล้วก็ให้หมุนกังหันกลับจากขวาไปซ้าย
- เมื่อหมุนกังหันเสร็จแล้ว ตีกลอง อีก 3 ครั้ง ดังๆ เพื่อให้เป็นที่รับรู้ทั่วกันทั้งฟ้าดิน และให้พรนั้นสมประสงค์
ไหว้พระเสร็จก็ได้เวลาช้อปทิ้งท้าย สำหรับที่สุดท้ายที่เราจะไปช้อปปิ้งกันคือย่าน Mong Kok หลังจากช้อปเสร็จแล้วไปเอากระเป๋าที่ที่พักแล้วตรงไปสนามบินด้วย MRT กันเลย
สำหรับทริปฮ่องกงด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ตามแพลนที่บุ๊คก้ามาแชร์นี้
- งบประมาณ 10,000 – 12,000 บาท (ไม่รวมช้อปปิ้ง)
- แนะนำว่าควรออกเดินทางแต่เช้าทุกวัน ไม่ควรออกเกิน 7.30 น. จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ
- ที่เที่ยวแต่ละที่ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมงแบบชิลๆ
- การเดินทางในทริปนี้บุ๊คก้าเน้นความหลากหลาย สังเกตว่าจะไม่ใช้แต่รถไฟใต้ดิน ถึงแม้แทบจะทุกที่สามารถไปถึงด้วยรถไฟใต้ดินได้ เพราะการนั่งรถลงเรือจะทำให้เราได้ชมวิว ดูบ้านดูเมืองเค้าไปในตัว
ถ้าเที่ยวตามแพลนนี้เก็บครบแน่นอนค่ะ ^_^
ถ้าถูกใจอย่าลืมกด Like ติดตามเพจนะคะ
บทความแนะนำ