สำหรับใครก็ตามที่ชื่นชอบความหรูหราระดับพรีเมียม งบในกระเป๋ามีไม่จำกัดเพื่อตอบสนองความสุนทรีที่ไร้ขอบจำกัด อยากจะขอเชิญชวนมาลองเปิดใจ และเปิดหูรับประสบการณ์ฟังเสียงระดับ Hi-end ที่ไม่ใช่แค่เสียงเท่านั้นที่ Hi-end แต่ราคาก็ต้องบอกเลยว่า Hi-end ด้วยอย่างมาก ๆ เพราะมันเป็นลำโพงที่แพงที่สุดในโลก ใช่แล้วอ่านไม่ผิด มันคือลำโพงที่แพงที่สุดแล้วตอนนี้ ซึ่งคุณภาพของมันนั้นก็เรียกได้ว่าสมกับราคาจริง ๆ หูเลือบทองคือไม่เกินจริง เกริ่นกันมาขนาดนี้อยากรู้รายละเอียดของลำโพงแบรนด์นี้เพิ่มขึ้นแล้วใช่ไหมว่าทำไมถึงแพงที่สุดในโลก มาพบกับ ลําโพง Devialet สุดยอดลําโพง Devialet ระดับ Hi-end ที่แพงที่สุดในโลกกันเลย

Devialet แบรนด์ลำโพง Hi-End สุดล้ำจากเมืองน้ำหอม

แบรนด์ Devialet นั้นก่อตั้งขึ้นในปี 2007 จากฝีมือของชาวฝรั่งเศสเพียง 3 คนได้แก่ Pierre-Emmanuel Calmel, Emmanuel Nardin และ Quentin Sannié ซึ่งทั้งสามคนนี้ก็ต่างเป็นที่รักและหลงไหลในเรื่องของเสียง ร่วมกันผลิตลำโพงเพื่อให้ได้เสียงที่สุดยอดเรื่อยมา และแบรนด์นี้ก็เริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาได้อย่างเป็นรูปเป็นร่างด้วยการร่วมมือกันกับกลุ่ม LVMH ที่เป็นผู้ออกแบบสินค้าระดับหรูจกแบรนด์ชั้นนำมากมายของโลก ทำให้ลำโพงแบรนด์ Devialet นั้นได้ออกสู่ตลาดด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่เหนือระดับแบบที่ไม่มีใครเหมือน ซึ่งตัวลำโพงตัวแรกที่ได้ส่งออกมาสู่ตลาดนั้นก็คือรุ่น Phantom นั่นเอง ก่อนที่แบรนด์นี้จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนในปัจจุบันนั้นมีสินค้าที่เกี่ยวกับการฟังเพลงไม่ว่าจะเป็นลำโพง สินค้าหลักของแบรนด์ที่ตอนนี้ก็ออกมาอย่างมากมายหลายรุ่น หูฟัง ที่กำลังเป็นสินค้ามาแรงของแบรนด์ที่ฉุดไม่อยู่แล้วในขณะนี้ รวมถึง soundbar ซึ่งคงจะบอกได้เลยว่า ครอบคลุมทุกเรื่องในเครื่องเสียงจริง ๆ แต่ก็ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าด้วยราคาขนาดนี้กลึ่มลูกค้าที่แบรนด์นี้อยากเจาะจงก็หนีไม่พ้นกลุ่มลูกค้าระดับสูงหรือ Hi-End ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การใช้งานเครื่องเสียงที่ดีที่สุดนั่นเอง

และเพราะการมองการณ์ไกลของผู้ก่อตั้งแบรนด์ทั้ง 3 คนในเรื่องของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ตั้งแต่แรกแล้วว่าในอนาคตของพวกเขาหรือปัจจุบันของพวกเรานั้นมันจะกลายเป็นการเชื่อมต่อที่ทุกคนนั้นสามารถใช้งานกันได้อย่างดี เครื่องเสียงของแบรนด์ Devialet นี้จึงเน้นในเรื่องของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย จนกลายเป็นที่รู้จักกันในเรื่องของคุณภาพเสียงระดับ Hi-End ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Wi-fi และ Bluetooth

Devialet Phantom ลำโพงผู้สร้างปรากฏการณ์

อย่างที่บอกไปก่อนแล้วว่า ลำโพงจากแบรนด์นี้ตัวที่ผลิตออกมาเป็นตัวแรกนั้นก็ได้แก่รุ่น Phantom ซึ่งจากการร่วมมือกับ กลุ่ม LVMH จึงทำให้ตัวของลำโพงรุ่นนี้นั้นเป็นตัวที่มีรูปลักษณ์และดีไซน์ที่หรูหราไม่ซ้ำแบบกับใครในท้องตลาด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นลำโพงที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการเครื่องเสียงบ้านในปัจจุบันกันเลยทีเดียว พร้อมกับเป็นลำโพงรุ่นที่ถูกพูดถึงกันเป็นวงกว้างมากๆ  ในขณะนี้ โดยตัวรุ่น Phantom นี้หากจะหยิบมาเปรียบเทียบลำโพง Devialet Phantom ทุกรุ่น ก็ต้องขอบอกเลยว่า รุ่นนี้ออกมาทั้งหมดเป็น 2 รุ่นใหญ่ ๆ ที่แตกออกไปได้อีก 2 รุ่นเล็กในตัว ซึ่งรวมกันแล้วก็เป็น 4 รุ่นด้วยกัน ซึ่งได้แก่

Devialet Phantom I

สำหรับ Devialet Phantom I ถือได้ว่าเป็นลำโพงรุ่นใหญ่สุดของซีรีส์ Phantom จึงทำให้รุ่นนี้มีราคาที่แพงมากที่สุด สามารถแบ่งย่อยออกเป็น 2 รุ่น คือ Phantom I 108dB กับ Phantom I 103dB โดยสเปคของทั้ง 2 รุ่นนี้นั้นก็เหมือนกันทุกอย่างเลยที่เดียวทั้งการดีไซน์ ขนาด รวมถึงการใช้งาน แต่ว่าข้อแตกต่างกันนั้นอยู่ที่กำลังขับและค่าความดังหรือ Sound Pressure Level (SPL) นั่นเอง โดยตัวรุ่น 108dB จะให้ความดังของเสียงที่มากกว่ารุ่น 103dB

ซึ่งสำหรับตัวท็อปอย่าง Phantom I 108dB นั้นมีกำลังขับสูงถึง 1100W RMS ตอบสนองความถี่กว้างตั้งแต่ 14 – 27,000Hz พร้อม SPL ที่ 108dB ให้พลังเสียงที่กระหึ่มเกินขนาดตัวแต่ไร้ซึ่งการสั่นสะเทือนของบอดี้จากโครงสร้างลำโพงแบบพิเศษ ภายในติดตั้ง Tweeter วัสดุไทเทเนียม 1 ตัว, Medium driver 1 ตัว และ Bass driver 2 ตัว และภาค DAC ที่สามารถถอดรหัสไฟล์ความละเอียดสูงสุดได้ถึง 24bits/96kHz จึงกลายเป็นลำโพงติดตั้งที่บ้านที่ใครหลายคนต่างก็ชื่นชอบ สามารถรองรับการจับคู่ 2 ตัวเป็นโหมดเสียงสเตอริโอเพื่อเพิ่มความกระหึ่มของเสียงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถควบคุมตัวลำโพงนั้นด้วยรีโมทคอนโทรลที่สามารถเข้าใจการใช้งานได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

Devialet Phantom II

Devialet Phantom II นี่คือลำโพงรุ่นเล็กจากซีรีส์ Phantom ที่มาพร้อมกับขนาดที่เล็กลงและราคาที่เบาลงมา สามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 รุ่นเหมือนกัน คือ Phantom II 98dB กับ Phantom II 95dB ซึ่งก็เหมือนกับรุ่นที่ I ด้วยการที่มีสเปคภายในเหมือนกัน ต่างกันที่กำลังขับและค่าความดังหรือ Sound Pressure Level – SPL ซึ่ง Phantom II 95dB นั้นจะมีความดังที่เบากว่ารุ่น 98dB

Phantom II 98dB ที่เป็นตัวท็อปของ Phantom II นั้นเป็นลำโพงรูปทรงไข่อันเป็นเอกลักษณ์ แม้จะมีขนาดเล็กกะทัดรัดแต่สามารถให้กำลังขับสูงถึง 400W RMS พร้อม SPL ที่ 98dB ตอบสนองความถี่ได้กว้างตั้งแต่ 18 – 21,000Hz มี THD+N ต่ำเพียง 0.001% โครงสร้างภายในออกแบบพิเศษให้ไม่มีการสั่นสะเทือนขณะทำงาน ติดตั้งไดร์เวอร์ Full range อลูมิเนียม 1 ตัว และวูฟเฟอร์อลูมิเนียม 2 ตัว เพื่อความกระหึ่มและชัดเจนไม่ว่าจะกำลังฟังเพลงอะไรอยู่ก็ตาม ภายในยังมี DAC ที่สามารถถอดรหัสเสียงความละเอียดสูงได้ถึง 24bit/96kHz สามารถตั้งค่าลำโพงและสั่งการผ่าน Devialet App ซึ่งเป็นแอปสำหรับการใช้งานลำโพงจากแบรนด์ Devialet โดยเฉพาะ

Devialet Phantom Opéra de Paris

จะบอกว่าเป็นรุ่นพิเศษก็คงไม่แปลกไปนักสำหรับ Phantom Opéra de Paris ตัวนี้ เพราะมันเป็นการเอาลำโพงตัวท็อปจากรุ่น Phantom I อย่าง 108dB และตัวท็อปของรุ่น Phantom II อย่าง 98dB มาตกแต่งดีไซน์ให้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้นโดยการเพิ่มแผ่นทองคำเปลวพร้อมโลโก้ Paris Opera หรือที่ทางแบรนด์เรียกว่า gold leaf เข้าไปในด้านข้างของลำโพง ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า มันดูหรูหราขึ้นเป็นอย่างมากเลยล่ะ

สำหรับสินค้าแบบลำโพงนั้นก็จบไปเป็นที่เรียบร้อย และอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า สินค้าของ Devialet นั้นไม่ได้มีเพียงแค่ลำโพงอย่างเดียว เพราะแบรนด์นี้ได้ผลิตหูฟังและ soundbar ออกมาให้ได้ซื้อมาใช้งานกันอย่างครบถ้วนเลย ซึ่งสำหรับคอหูฟังที่ชอบหูฟัง Sony หรือ หูฟัง Marshall แล้วล่ะก็ขอบอกเลยว่าหูฟังของแบรนด์ Devialet นั้นก็มีคุณภาพที่สูงไม่ต่างกันเลย แถมยังราคาพอ ๆ กันอีกด้วย อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมแล้วใช่ไหม ไปดูกันเลย

Devialet Gemini เสียงสุดล้ำผ่านหูฟังสุดเล็ก

Devialet Gemini หูฟังแบบ True Wireless ที่มาพร้อมกับขนาดที่เล็กกะทัดรัดสวมใส่แบบ In Ear สามารถสวมใส่ได้ง่าย เบาสบาย และกระชับแนบสนิทหู มาพร้อมจุกซิลิโคนที่มีให้เลือกถึง 4 ไซส์ประกอบไปด้วยไซส์ XS, S, M และ L จึงทำให้สามารถเลือกไซส์ที่เข้ากับหูของผู้ใช้งานได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวว่าจะใส่ไม่พอดีแต่อย่างใด มาพร้อมการตัดเสียงรบกวน Devialet Gemini’s Active Noise Cancellation (ANC) ที่ทำให้เสียงภายนอกไม่สามารถเข้ามารบกวนในขณะฟังเพลงได้ คุณจึงสามารถดื่มด่ำกับความสุนทรีของเสียงเพลงผ่านหูฟังได้อย่างเต็มที่ เชื่อมต่อโดย Bluetooth 5.0 ที่ให้สัญญาณการเชื่อมต่อที่ไกลถึง 10 เมตร พร้อมกับการรองรับการใช้งานแยกข้างซ้ายและขวาได้อย่างอิสระเพื่อการฟังเพลงที่ดีที่สุด และสำหรับสายออกกำลังกายก็สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 ที่สามารถกันเหงื่อตอนออกกำลังกายหนัก ๆ ได้เป็นอย่างดี หรือวันไหนที่กำลังวิ่ง ๆ อยู่แล้วเจอฝนตกก็ไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะพังจากการโดนน้ำอีกด้วย สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เรียกได้ว่าคุ้มค่ามาก ๆ ทีเดียว เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ทุกแบบกันเลยทีเดียวกับหูฟัง Devialet Gemini ตัวนี้

Devialet Dione Soundbar เสียงล้ำลึกดึงดูดทุกการฟัง

อย่างที่บอกไปแล้วว่า Devialet เขาจัดหนักจัดเต็มในเรื่องของเครื่องเสียงมาก ๆ ทำให้นอกจากลำโพงและหูฟังแล้วยังมี Soundbar อีกด้วย ซึ่งตัว Soundbar นี้ก็มีชื่อว่า Devialet Dione Soundbar ที่มาพร้อมกับระบบเสียง 5.1.2 แชนแนลแท้ และยังรองรับ Dolby Atmos เพื่อเสียงรอบทิศทางที่เต็มอิ่มและสมจริง มาพร้อมกับกำลังขับ 950W RMS และมี SPL ที่ 101dB ภายในของตัว Soundbar ติดตั้งไดรเวอร์ขับเสียงมากถึง 17 ตัว สามารถแบ่งเป็น Aluminium long-throw subwoofer 8 ตัว และ Full-range aluminium driver 9 ตัว ตอบสนองความถี่กว้าง 24 – 21,000Hz เพื่อเสียงทุกย่านที่เต็มอิ่ม และได้ยินรายละเอียดได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ

เป็นยังไงกันบ้างกับการทำความรู้จักแบรนด์ Devialet ที่ถือว่าตอนนี้กำลังมาแรงมาก ๆ ถือว่าเป็นลำโพงระดับ Hi-end ที่โดดเด่นทั้งเรื่องของรูปลักษณ์ เรื่องของคุณภาพ เรื่องของความครบเครื่องซื้อที่เดียวจบในเรื่องของเครื่องเสียง แต่ก็อย่าลืมว่าแบรนด์นี้คือแบรนด์ที่แพงที่สุดในโลก ใครที่มีเงินเหลืออยากสัมผัสลำโพงติดตั้งบ้านที่คุณภาพเสียงนั้นกระหึ่มอย่าง Hi-end จะลองหามาใช้ก็น่าสนใจดีนะ