“ญี่ปุ่น” เชื่อว่าเป็นประเทศที่หลายๆ คนอยากไปสักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะคนที่คลิกเข้ามาดูรีวิวนี้
สวัสดีค่ะ…วันนี้บุ๊คก้าจะมาแชร์ข้อมูลและวิธีการลากกระเป๋าเที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัด แบบไม่ลำบาก แต่ก็ไม่ถึงกับสบาย หรือหรูมาก 555 แค่อาจต้องรอเวลาและจังหวะในการเดินทางกันสักนิด คิดว่าน่าจะทำให้คนที่มีงบน้อย พอจัดสรรเงินเก็บเพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นได้สักครั้งในชีวิต
สำหรับรีวิวนี้จะขอแยกข้อมูลเป็น 2 ส่วนตามนี้นะคะ
- ค่าใช้จ่าย
- สถานที่เที่ยวและการเดินทาง
มาเริ่มกันที่เรื่องสำคัญที่สุดสำหรับการออกทริปราคาประหยัดกันเลยดีกว่า
นั่นคือ ค่าใช้จ่าย
สำหรับทริปญี่ปุ่นครั้งนี้บุ๊คก้าขอให้ทุกคนตั้งงบไว้ในใจก่อนที่
20,000 บาท
(เรทเงินเยนคิดยึดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 31 บาท ต่อ 100 เยน)
Tip : ถ้าตอนนี้เราไม่มีเงินสักบาทเลยก็ให้เริ่มจาก เก็บเงินค่ะ เก็บวันละ 55 บาท 365 วัน(1ปี) ก็ได้ไปเที่ยวแล้ว สู้ๆ
แล้วเงิน 20,000 บาทนี่เราจะทำอะไรได้บ้าง?
…อย่างแรกเลยเราต้องกำหนดเป้าหมายค่ะ…
ประเทศญี่ปุ่นก็เหมือนบ้านเรา มีภาคต่างๆ ให้ท่องเที่ยว
และเป็นธรรมดาที่ภาคที่บินถึงก่อน ค่าตั๋วเครื่องบินจะถูกกว่าภาคที่อยู่ตอนบน
ยกตัวอย่างตามภาพนี้ Fukuoka อยู่ทางใต้ ค่าตั๋วเครื่องบินก็จะถูกว่า Hokkaido ที่อยู่ทางเหนือ
อ๊ะๆ แต่อย่างพึ่งตัดสินใจตอนนี้นะคะว่าจะไปเที่ยว Fukuoka เพราะราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกที่สุด
เพราะทริปที่บุ๊คก้าจะแนะนำให้ไป กันเป็นแถบคันไซ คือแถวๆ จังหวัด Osaka, Kyoto, Kobe ต่างหาก
บุ๊คก้าแนะนำแถบคันไซ เพราะโซนนี้เดินทางสะดวก มีสถานที่ใกล้ๆ กันเยอะ ทำให้ประหยัดค่าเดินทางและเที่ยวได้หลากหลาย เหมาะสำหรับคนไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก และควบคุมเรื่องเงินได้ค่อนข้างแน่นอนค่ะ
หลังจากที่เราตัดสินใจได้แล้วว่าจะบินไปเที่ยวแถบคันไซ ขั้นตอนต่อไปเราก็ต้องรู้ว่า เราจะไปเที่ยวกี่วันเงิน 20,000 บาทของเราถึงจะพอใช้ชีวิตรอดและกลับมาเมืองไทยได้อย่างปลอดภัย
เพื่อความสะดวกของเพื่อนๆ ที่กำลังอ่านรีวิวนี้อยู่ บุ๊คก้าขอสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ตามนี้นะคะ
ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปญี่ปุ่นแถบคันไซ 5 วัน 6 คืน
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ให้หาตั๋วเครื่องบินที่ราคาไม่เกิน 8,500 บาท แน่นอนว่าตั๋วเครื่องบินราคานี้ต้องเป็นสารการบิน Low cost ที่บุ๊คก้าจองเป็นประจำ จะเป็นสายการบิน AirasiaX จองช่วยมีโปรลดราคา หรือว่าจองผ่าน Traveloka จะได้ราคาดี ยังไงต้องอดทนรอตั๋วเครื่องบินกันสักนิดนะคะ เพราะส่วนนี้คือค่าใช้จ่ายเกือบครึ่งนึงของทริปเลยทีเดียว
ตัวอย่างเที่ยวบินที่เคยจองสำหรับบุ๊คก้าจะจองแบบนี้ค่ะ จองบินช่วงบ่าย ไปถึงดึก แล้วนอนที่สนามบิน ส่วนขากลับเลือกไฟลท์ดึกสุดค่ะ
2. ที่พักสำหรับ 4 คืน ให้หาที่พักราคาไม่เกินละ 3,200 บาท สำหรับการเข้าพัก 4 คืน ต่อ 1 คน (แนะนำให้หาเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันจะได้ช่วยกันหารค่าที่พัก จะทำให้หาที่พักราคานี้ได้ง่ายขึ้น)
ฟังดูอาจจะรู้สึกว่า “จะไปหาได้ยังไงที่พักคืนละ 800 บาท x 5 คืน ขนาดในเมืองไทยยังหายากเลย แล้วนี้ญี่ปุ่นนะ แบบนี้ต้องลำบากแน่ๆ” แต่ช้าก่อน ราคาที่บุ๊คก้าแนะนำมีจริงๆ นะคะ ไปพักมาหลายรอบแล้ว ถึงกล้าแนะนำ แต่เราจะต้องจองล่วงหน้า ล่วงหน้าขนาด 5-6 เดือนล่วงหน้ากันเลยทีเดียว โดยจองผ่าน Booking.com, Agoda.com, Traveloka.com หรือ Airbnb(7คืนขึ้นไป) รับประกันว่าราคานี้มีแน่ๆ แถมยังเป็นห้องพักแบบส่วนตัวและมีห้องน้ำในตัวด้วย แต่จะเป็นห้องพักระดับ 2-3 ดาว แต่ถ้าใครคิดว่า ใช้ห้องน้ำรวม หรือนอนรวมได้ ก็อาจได้ที่พักคืนละ 400 – 600 บาทก็มีค่ะ แต่ถ้าหาแบบห้องน้ำส่วนตัวไม่ได้ในราคานี้ เพราะอาจเป็นช่วงที่คนไปเที่ยวเยอะ ก็ลองดูห้องส่วนตัวแบบห้องน้ำรวมแทนก็ได้ เพราะห้องน้ำรวมที่ญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่สะอาดตามมาตรฐานญี่ปุ่นอยู่แล้วค่ะ
Tip : ตั๋วไปลงสนามบินคันไซราคาประหยัดบางทีอาจได้เที่ยวบินดึก พอมาถึงสนามบินแล้วเข้าเมืองไม่ทัน ก็สามารถนอนสนามบินได้นะคะ ที่สนามบินมีโซนให้นอนรอรถไฟรอบเช้า เดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม โซนนอนจะอยู่ในโรงแรม ตรงข้ามร้านเบอร์เกอร์ มีห้องอาบน้ำให้เช่าอาบ 15 นาที 500 เยน มีผ้าห่มให้ยืมด้วยค่ะ
3. ค่ากิน 5 วัน 5,000 บาท ค่ากินในที่นี้เป็นการกินอยู่แบบสบายๆ ไม่อด ไม่อยาก แต่ไม่หรู เป็นค่าอาหารเช้า กลางวัย เย็น รวมค่าน้ำ ค่าขนม ทั้งหมดแล้วจะตกประมาณวันละ 1,000 บาท กินถูกบ้าง แพงบ้างแล้วแต่มื้อ ยังไงควบคุมตัวเองว่าอย่าให้เกิน เพราะงบส่วนนี้เป็นส่วนที่เราควบคุมเองได้
ราคาอาหารในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 170 -250 บาท (550 – 850 เยน) สำหรับจานทั่วไป ถ้าจานพิเศษเช่นมีเนื้อปูหรือเนื้อกุ้งจะแพงขึ้นเป็น 252 – 465 บาท (850 – 1,500 เยน) แต่ถ้ามื้อไหนอยากกินหรู กินแพงหน่อย ก็ให้ไปลดมื้ออื่น เป็นบะหมี่คัพแทนก็ได้ค่ะ เพราะบะหมี่คัพที่ญี่ปุ่นก็อร่อยขั้นเทพ มีรสให้เลือกเยอะมาก ราคาก็เบาๆ 62 – 77 บาท (200-250 เยน) เท่านั้นค่ะ
4. ค่าเดินทางและค่าล็อคเกอร์ 3,028บาท สำหรับค่าเดินทางในแถบคันไซ หลายคนอาจมีคำถามว่า “ต้องใช้ JR-Pass ไหม?” “จะซื้อ Pass อะไรดี”
บุ๊คก้าขอแนะนำ Route การเที่ยวแบบประหยัดสำหรับ Trip นี้โดยแยกค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางเป็นวันๆ ไปนะคะ และที่เที่ยวจะไม่ได้อัดแน่นมาก วันนึงไปแค่ 2-3 ที เพื่อไม่เร่งรีบจนเกินไปค่ะ และเลือกใช้ Pass แบบที่เข้าที่เที่ยวฟรี เพื่อประหยัดค่าเข้าชมด้วยค่ะ
ตัวอย่างค่าใช้จ่าย
Day 0 สมมติว่าเราจองตั๋วเครื่องบิน Airasia เที่ยวบิน บ่ายสามโมง ไปถึงสนามบินคันไซกว่าจะผ่าน ตม. เสร็จก็เกือบ 5 ทุ่ม ฉะนั้นเราจะเริ่ม Day 0 ด้วยการนอนสนามบินเพื่อรอรถไฟเที่ยวเช้าสุดค่ะ
Day 1 | เดินทางออกจากสนามบิน โดยการซื้อตั๋วแบบพิเศษ ICOCA & HARUKA 3,600 เยน (เป็นค่าเดินทางไปเกียวโต 1,600 เยน และเป็นเงินสดในบัตร 1,500 เยน ค่ามัดจำบัตร 500 เยน)![]() |
1,600 เยน |
ค่ารถบัส Kyoto Bus One-Day Pass![]() * ซื้อที่สถานที Kyoto หรือซื้อจากคนขับรถบัสได้เลยค่ะ |
500 เยน | |
Day 2 | ค่ารถบัส Kyoto Bus One-Day Pass | 500 เยน |
Day 3 | ค่ารถไฟจาก Kyoto ไป Kobe | 1,080 เยน |
ค่าฝากล็อกเกอร์ | 800 เยน | |
ค่ารถบัส Kobe City Loop | 660 เยน | |
ค่ารถไฟจาก Kobe ไป Osaka | 410 เยน | |
Day 4 | Osaka amazing pass แบบ 2 วัน | 3,300 เยน |
Day 5 | ||
ค่ารถไฟจาก Namba ไปสนามบิน Kansai | 920 เยน | |
ราคารวมประมาณ | 9,770 เยน (3,028 บาท)* |
*อัตราแลกเปลี่ยนที่ 31 บาท / 100 เยน , ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ อาจเปลี่ยนแปลง เพิ่ม-ลด ได้ หากที่พักอยู่ต้องต่อรถเยอะ หรืออยู่ไกล-ใกล้สถานีหลัก
** ตามตารางค่าใช้จ่ายนี้ สรุปว่าเราควรจองที่พักที่ เกียวโต 2 คืน และโอซาก้า 2 คืนนะคะ
จากตารางค่ารถด้านบน บุ๊คก้าลองคำนวณเทียบแล้ว สรุปว่าเราไม่ควรซื้อ JR Pass เพราะเราไปใช้ Bus pass แทนจะถูกกว่า นอกเสียจากว่าใครอยากเที่ยวหลายเมืองกว่านี้ ต้องไปคำนวณค่าใช้จ่ายกันดูอีกทีนะคะ
ดูรายละเอียดค่า JR-Pass ในแถบคันไซ > คลิกที่นี่
มาถึงจุดนี้แล้วค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด สำหรับทริปนี้อยู่ที่ 19,728 บาท ยังไม่รวมค่าผ่านประตูสถานที่เที่ยวบางแห่งในเกียวโตซึ่งไม่เยอะมาก ให้เผื่อไว้อีกประมาณ 300 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยเก็บค่าเข้าชม เอาจริงเราว่าบางทีเดินดูรอบๆ สวยกว่า เพราะด้านในเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ ส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก ฟังไม่เข้าใจอยู่ดี
จากที่เล่ามาทั้งหมด ทริปนี้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท แต่….
ยังไม่รวมค่าช้อปปิ้งนะคะ ซึ่งอันนี้แล้วสติของแต่ละคนเลยว่าจะช้อปมากช้อปน้อยแค่ไหน หรืออาจประหยัดค่ากินลงในบางมือก็จะเหลือเงินไว้ช้อปได้บ้างค่ะ
สำหรับทริปญี่ปุ่น 5 วัน 6 คืน ก็จะใช้เงินประมาณนี้แหละค่ะ ^_^
หลังจากที่เรารู้ค่าใช้จ่ายโดยประมาณกันไปแล้ว
มาต่อกันที่ สถานที่เที่ยวและการเดินทาง กันเลยดีกว่า
จากตารางค่าใช้จ่ายด้านบน เราจะมาออกแบบตารางเที่ยวกันต่อเลยนะคะ
สิ่งสำคัญ : สำหรับการเดินทางในญี่ปุ่นคือ การเช็คตารางรถไฟ บุ๊คก้าแนะนำให้ค้นหาเที่ยวรถจากเว็บ www.hyperdia.com เพราะเว็บนี้เป็นเว็บหลักที่คนญี่ปุ่นใช้ และให้รายละเอียดเยอะที่สุด ถ้าใช้ Application ในมือถือส่วนใหญ่จะให้ข้อมูลไม่ละเอียดพอ บางทีถ้านั่งรถไฟผิด หรือหลงทางจะต่อรถกลับลำบากค่ะ
* สำหรับตำแหน่งที่เที่ยว บุ๊คก้าจะแชร์พิกัด GPS ไว้ให้นะคะ ลองเปิดดูสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดเพื่อใช้เช็คตารางรถไฟอีกทีนะคะ
ตัวอย่างทริปและสถานที่เที่ยวแนะนำ
Day 1 | 06.30 – 08.02 เดินทางจากสนามบิน เข้าที่พักในเกียวโต![]() 08.02 – 08.30 เข้าที่พักฝากกระเป๋า แล้วออกไปเที่ยวด้วย Kyoto Bus One Day Pass * ตอนเอากระเป๋าไปฝาก ลองคุยกับที่พักดูนะคะว่าสามารถ check in เลยได้ไหม แล้วฝากกระเป๋าไว้ ค่อยกลับมารับกุญแจห้องอีกทีตอนที่กลับมาถึงที่พัก เพราะไม่งั้นจะเสียเวลาวิ่งกลับมา check in อีกที ทำให้เสียเวลาเที่ยวค่ะสำหรับการเที่ยวเกียวโตด้วย Bus pass เราจะแบ่งออกเป็น 2 วันเพื่อเที่ยวชิลๆ ไม่รีบร้อนโดยวันแรกเราจะเที่ยวกันในโซนนี้ (วงกลมสีแดงตามภาพ)
|
Day 2 | ![]() 10.30 – 12.00 วัดนินนาจิ (Ninna-ji Temple) > พิกัด GPS 12.00 – 19.30 เที่ยวย่าน Arashiyama ป่าไผ่ , Tenryu-ji Temple, Nonomiya shrine + หาข้าวเย็นกินแถวนั้นเลย > พิกัด GPS 19.30 – 20.00 กลับที่พัก |
Day 3 | 08.00 Check out 08.00 – 09.00 เดินทางไป Kobe ![]() 09.00 – 17.00 เที่ยว Kobe โดยใช้ City bus pass จุดที่แนะนำให้แวะเที่ยวคือ 2, 4, 10, 17 ![]() รายละเอียดเพิ่มเติม > คลิกที่นี่ 17.00 – 17.30 เดินทางไป Osaka 17.30 – 18.00 Check in ที่พัก 18.00 – 21.00 เดินเล่น หาของกินย่าน นัมบะ (Namba), ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi), ย่านโดทงโบริ(Dotonbori) > พิกัด GPS 21.00 -21.30 กลับที่พัก |
Day 4 | ใช้ Osaka amazing pass แบบ 2 วัน ลิ้งค์รายละเอียดสถานที่เที่ยว > คลิกที่นี่ Map และสถานีที่เที่ยวฟรี! > คลิกที่นี่ ![]() 12.00 – 16.30 เที่ยวย่าน Bay Area นั่งชิงช้า นั่งเรือ จุดชมวิว ฟรี > พิกัด GPS 16.30 – 21.00 เที่ยงย่าน Osaka + Umeda ชมวิว นั่งชิงช้า ดูวิวกลางคืน + หาข้าวกิน > พิกัด GPS 21.00 -21.30 กลับที่พัก |
Day 5 | 08.00 Check out ฝากกระเป๋าไว้ที่พัก 08.30– 14.30 เที่ยวย่านเทนโจจิ (Tenjoji) เที่ยวสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ ขึ้นหอคอย เดินเล่นหาของกิน > พิกัด GPS ![]() 20.00 – 21.00 เดินทางไปสนามบินคันไซ (เวลาเดินทางเที่ยวชมวันสุดท้ายลองปรับกันตามไฟลท์กลับกันนะคะ เพราะแต่ละไฟลท์ต่างกันค่ะ) > พิกัด GPS 21.00 Check in ตั๋วเครืองบิน + โหลดกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน * วันสุดท้ายอย่าลืมเผื่อเวลากันหน่อยนะคะ กันตกเครื่อง ยังไงลองปรับรายละเอียดตามเวลาไฟลท์ขากลับกันดูนะคะ ว่ามีเวลาเยอะน้อยแค่ไหน |
การเดินทางเที่ยวในญี่ปุ่นนั้น จะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย สิ่งที่สำคัญคือ
- ต้องตรงเวลา เพราะรถไฟญี่ปุ่นตรงเวลามากๆ ถ้าตกรถคือต้องรอรอบต่อไปเท่านั้น
- วางแผนล่วงหน้าและศึกษาเส้นทางก่อน เช่น ทางไปที่พัก ทางไปที่เที่ยวต่างๆ เพื่อช่วยประหยัดเวลาและกันหลง
- สิ่งที่ควรเตรียมไปด้วยอีกอย่างคือ Internet SIM เพราะจะช่วยให้เราหาข้อมูลระหว่างทางในกรณีหลงทาง และช่วยในการสื่อสารได้เยอะเลยทีเดียว ซึ่งไมต้องไปซื้อซิมหรือเช่า Pocket WiFi ที่ญี่ปุ่นให้วุ่นวาย ให้เลือกซื้อซิมจากเมืองไทยเรานี่แหละค่ะ ราคาไม่เกิน 400 บาท ใช้งานได้ 8 วันเลย จะเป็นซิมของ AIS หรือของ True ก็ได้ รายละเอียดอ่านตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ
AIS Sim2Fly http://bit.ly/2u0t94U
True Travel SIM Asia http://bit.ly/2u0sL6m
อ้อ…แล้วก็อย่าลืม เรื่องมารยาทระหว่างท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นนะคะ เข้าเมืองตาหลิว ต้องหลิวตาตามค่ะ
สำหรับรีวิวนี้เป็นเพียงแนวทางหนึ่งในการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์และช่วยให้หลายคนนำไปปรับใช้เพื่อเริ่มวางแผนเที่ยวตามสไตล์ตัวเอง ส่วนเรื่องงบประมาณจะมากขึ้นหรือน้อยลง ก็แล้วแต่ความสามารถในการจองตั๋วและที่พักแล้วหละค่ะ
ก่อนจากกันไปขอฝากรีวิวอื่นๆ ที่เกี่ยวกับญี่ปุ่นไว้เป็นข้อมูลเพื่อเพิ่มสีสันในการเที่ยวญี่ปุ่นนะคะ เผื่อใครมีงบมากขึ้น อยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ใกล้ชิดขึ้นไปอีก ก็จะทำให้การท่องเที่ยวญี่ปุ่นมีสีสันมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
บ๊าย บาย
じゃ、またね
^_^
ถ้าถูกใจอย่าลืมกด Like ติดตามเพจนะคะ