ร้านทาโกะยากิ ที่ถนนดงโทโบริในโอซาก้า ร้านไหนอร่อยกว่ากัน

UPDATE กลับไปกินมาอีกครั้ง ตอนนี้ร้านสีดำทำเละมากอะ ไม่กรอบนอกนุ่มในเหมือนเดิมแล้ว คิดว่าคงเป็นเพราะไปกินตอนเย็น แล้วเค้าไม่ได้ทำทิ้งไว้ แต่รสชาติยังอร่อยอยู่นะ แค่มันไม่กรอบและไม่สวยงามเท่านั้นจ้า

หลังจากที่บุ๊คก้าได้ไปตะลุยญี่ปุ่นมาสักพักแล้ว วันนี้พึ่งได้มาเริ่มรีวิวญี่ปุ่นด้วยคลิปนี้ ในหัวข้อที่ว่า “ร้านทาโกะยากิ ที่ถนนดงโทโบริในโอซาก้า ร้านไหนอร่อยกว่ากัน” ต้องบอกว่า ความอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นบุ๊คก้าจะขออธิบายรายละเอียดให้ฟังเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของทุกท่านะคะ

ถนนดงโทโบริ(Dotonbori) เป็นย่านของกินอีกหนึ่งย่านที่เชื่อว่า หลายๆ คนที่ไปโอซาก้าจะต้องไม่พลาดถนนเส้นนี้ เพราะต้องไปถ่ายรูปกับ ป้ายกูลิโกะ นั่นเอง 5555 แล้วเกี่ยวกับของกินไหมเนี้ย

(ในภาพนี้แต่งหน้าดูแปลกไปสักนิดนะคะ เห็นสาวๆญี่ปุ่นเค้าปัดแก้มแบบนี้ เลยแอบปัดตามเค้าบ้าน เห็นกำลังฮิต 555 พอกลับมาดูที่หลัง ตลกมากอะ)

อันที่จริง ถนนเส้นนี้มีแม่น้ำตัดผ่านตรงกลาง และเป็นถนนเส้นที่อยู่ติดกับย่าน Shopping มากมายในเขตนัมบะ (Namba) จริงๆ มีอะไรหลายอย่างน่าสนใจในย่านนี้ แต่บุ๊คก้าขอเปิดรีวิวญี่ปุ่นด้วยเรื่องของทาโกะยากิ เป็นเรื่องแรกก่อนนะคะ

สำหรับร้านที่เราเลือกมารีวิววันนี้คือสองร้านนี้ที่ตั้งอยู่ติดกันค่ะ เป็นร้านทาโกะยากิ ที่อยู่ติดกับร้านราเมงข้อสอบ

ภาษาญี่ปุ่เราก็อ่านไม่ออก ขอเรียกเป็นร้านที่ 1 สีดำ และ ร้านที่ 2 สีขาว แล้วกันนะคะ

มาเริ่มกันที่ร้านที่ 1 สีดำ กันก่อนค่ะ

สำหรับร้านที่ 1 สีดำนี้ นอกจากทาโกะยากิแล้วเค้ายังมีอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ขายด้วยนะคะ เพราะร้านนี้ออกแนว Cafe แต่สิ่งที่ทุกโต๊ะจะต้องสั่งแบบขาดไม่ได้เลย นั้นก็คือ ทาโกะยากิ โดยบรรยากาศในร้านนี้เหมือนร้านเหล้าทั่วๆ ไป มี TV เปิดบอลให้ดูด้วย เสียดายมั่วแต่หิว เลยตั้งหน้าตั้งตากินลูกเดียว ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศร้านมาเลย แต่ขอบอกว่าร้านน่านั่งมากๆ ถ้าอยู่แถวบ้านคงไปนั่งกินบ่อยๆ

สำหรับร้านนี้เค้ามาทาโกะยากิหลายแบบหลายซอสอยู่ค่ะ แต่ที่บุ๊คก้าสั่งมานั้นคือแบบที่เป็น No.1 ของเค้า เข้าใจว่าคงเป็นแบบ original ทั่วๆ ไป ขนาดที่สั่งมาคือ 6 ชิ้น 420 เยน (ถ้าสั่ง 8 ชิ้นจะถูกกว่า แต่เนื่องจากเราจะไปลองชิ้มอีกร้าน เลยไม่กล้างสั่งเยอะกลัวจะกินไม่ไหว)

สำหรับรสชาติทาโกะยากิร้านนี้บุ๊คก้าชอบมากๆ เลยค่ะ เพราะด้านนอกกรอบ และด้านในนุ่มกำลังดี ที่สำคัญหนวดปลาหมึกชิ้นใหญ่ อันนี้สำคัญมาก ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปเลยค่ะ

นี้คือเมนูอาหารอื่นๆ ที่มีบริการในร้าน

สำหรับร้านที่ 2 สีขาว ร้านนี้คนต่อแถวค่อยข้างเยอะเป็นพักๆ หน้าตาร้านดูบ้านๆ แต่ทีที่นั่งหน้าร้านและชั้นใต้ดินด้วยนะคะ

สำหรับร้านที่ 2 สีขาวนี้บุ๊คก้าเลือกสั่งเบอร์ 2 เพื่อให้เหมือนกับร้านแรก โดยบอกเค้าว่า ไม่เอาต้นหอมด้วยนะคะ (บุ๊คก้าไม่ทานผัก) เพราะร้านนี้เค้าจะซัดต้นหอมโรยหน้าทาโกะยากิมาแบบล้นหลาม เราไม่ทานเลยต้องขอไม่ใส่ เพราะคงจะเขี่ยกันไม่ไหวแน่ๆ

ทาโกะยากิร้านนี้มีอยู่ขนาดเดียว คือ 9 ลูก 500 เยน (ถือว่าราคาถูกกว่าร้านที่ 1 สีดำอยู่นิดหน่อย)

สำหรับรสชาติของทาโกะยากิร้านนี้ จะออกแนวนิ่มๆ แป้งด้านในเละๆ เหมือนขนมครกบ้านเรา ส่วนหนวดปลาหมึกก็ชิ้นเล็กกว่าร้านที่ 1 เท่าตัวเลยทีเดียว เข้าใจว่าคุณภาพน่าจะเป็นไปตามราคาที่ขาย ส่วนเรื่องแป้ง อันนี้อยู่ที่รสนิยมการกินของแต่ละคนว่าจะชอบแบบไหนมากกว่ากันนะคะ

โดยสรุปแล้ว ถ้าให้บุ๊คก้าเลือกทาโกะยากิที่ชอบที่สุดจาก 2 ร้านนี้บุ๊คก้าขอเลือกร้านที่ 1 สีดำ เนื่องจากขนาดของหนวดปลาหมึก และแป้งกรอบนอกนุ่มใน ถึงแม้ราคาจะสูงกว่า แต่ได้ใจบุ๊คก้าไปเต็มๆ ค่ะ