กลับมาอีกครั้งสำหรับ “กินดะ…!” ไม่มีใครเรียกร้อง แต่เพราะท้องร้องถึงเกิดรีวิวแบบนี้ขึ้น 5555
สำหรับใครที่พลาด “กินดะ…! ภาค 1” คลิกไปดูกันได้ที่ลิ้งนี้นะคะ > กินดะ…! 102 อย่าง ไม่เน้นร้านดัง
และสำหรับกินดะ…! ภาค 2 นี้บุ๊คก้ายังอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกเช่นเคย ที่จริงบุ๊คก้าไปเที่ยวกลับมานานแล้ว แต่พึ่งมีเวลารวบรวมสติเขียนรีวิวให้ดูกัน
ทริปนี้เราเดินทางไปมาทั้งหมด 4 เมือง โดยบินไปลงที่สนามบินคันไซ แล้วนั่งชิงคันเซนไปเริ่มต้นจาก Hiroshima > Mitsui outlet Okayama > Kobe > Osaka รวมแล้ว 7 วัน 5 คืน ค่ะ
(ทริปนี้เดินทางแบบไม่เต็มอิ่ม เพราะตอนที่เดินทางไปเที่ยวรอบนี้บุ๊คก้ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ ต้องใช้ไม้เท้าในการเดินทาง สลับกับรถเข็น เลยทำให้เที่ยวได้น้อยเมือง และกินได้น้อยอย่างไปหน่อย เพราะเราต้องควรคลุมสติ ใช้สมาธิในการรักษาน้ำหนักให้คงที่และลดลง มิเช่นนั้นจะกระทบกับอาการที่เป็นอยู่)
สำหรับกินดะ…! ภาค 2 จะมีจำนวนอาหารและขนมน้อยกว่าภาคแรกเยอะอยู่ เพราะมีหลายอย่างที่เราชอบเลยกินซ้ำ และไม่เอามาเขียนในภาคนี้ เพื่อกันความสับสนนะคะ ถ้างั้นขอเริ่มกินดะภาค 2 กันเลยน้า
สำหรับวันแรกที่ไปถึงเราตัดสินใจนอนที่สนามบินคันไซอีกเช่นเคย พอไปถึงก็เลยพึงอาหารในร้านสะดวกซื้อ LAWSON ไปเจอข้าวปั้นหน้าไข่ต้ม เลยรีบคว้ามา เพราะครั้งที่แล้วกินข้าวปั้นหน้าไข่ต้มของ 7-11 แล้วติดใจมากๆ ครั้งนี้เจอของ LAWSON ก็ต้องขอลองชิมสักหน่อย
อย่างที่ 1 ข้าวปั้นหน้าไข่ต้ม (ราคา 145 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รู้สึกเฉยๆ มาก สู้ข้าวปั้นหน้าไข้ต้มของ 7-11 ไม่ได้ เพราะข้าวจืดหว่า และไม่เหนียวนุ่ม ไข่สุกบางส่วน ถ้าเป็นของ 7-11 จะไม่สุกเลยทั้งใบ จะเป็นมะตูมทั้งลูกเลย
อย่างที่ 2 ข้าวปั้นไส้ทูน่ามาโย (ราคา 110 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ ข้าวสามเหลี่ยนยี่ห้อนี้ให้ทูน่าน้อยไปหน่อย พอๆ กันกับบ้านเรา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างที่รู้สึกผิดหวัง ส่วนรสชาติก็เฉยๆ “อะไรกันนี่..ทำไมเปิดทริปนี้ถึงเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เริ่มทริป จะมีอะไรอร่อยๆ ให้กินบ้างไหมเนี้ย ><“
อย่างที่ 3 พุดดิ้งของ Glico (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ เนื้อพุดดิ้งเนียนๆ นุ่มๆ ไม่หวานมาก กลมกล่อมกำลังดี ชอบๆ ^_^
เช้าวันรุ่งขึ้น ด้วยความที่ยังอิ่ม เลยนั่งรถไฟเข้าเมืองมาต่อชิงคันเซนเพื่อไป Hiroshima ก็เลยแวะซื้อข้าวกล่องในสถานีรถไฟ Shin-Osaka
อย่างที่ 4 ข้าวกล่องหน้าปูอาลาสก้า (ราคา 1,080 -1,260 เยนนี่แหละ จำไม่ค่อยได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ บอกเลยฟินนนนนนนนนนนนนน อร่อยมากกกกกกก T_T น้ำตาจิไหล มีความชอบมากมาย เพราะเนื้อปูหวาน และข้าวปรุงรสมากำลังดี เสียดายซื้อมาแค่ 1 กล่อง (เพราะกินคนเดียวคิดว่าพอ555) รอบหน้าถ้าเจอจะจัดมา 2 กล่องกินคนเดียวให้สะใจ
หลังจากถึง Hiroshima แล้วเราก็เอากระเป๋าไปเก็บที่พัก แล้วออกเดินทางไปเกาะ Miyajima เพื่อเที่ยวชมศาลเจ้าลอยน้ำ Itsukushima Shrine และเสาโทริอิยักษ์ บนเกาะมีของขายตลอดทาง มีหรือบุ๊คก้าจะพลาด ^_^ กินไปเดินไปสิคะงานนี้ กองทัพต้องเดินด้วยท้องจริงม้าาาาาาา
อย่างที่ 5 น้ำแข็งใส สีฟ้าคือรสบูล สีชมพูคือรสนมเย็น (ราคา 200 หรือ 300 เยนนี่แหละ จำไม่ค่อยได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ บุ๊คก้าชอบรสบูลนะ กินแล้วรู้สึกสดชื่นดี ส่วนสีชมพูเหมือนนมเย็นบ้านเรา(ของแฟน) โดยรวมทั้ง 2 รสจะหวานอ่อนๆ เรียกว่าแทบไม่หวานเลยดีกว่า ไม่เหมือนบ้านเราที่หวานปลอมๆ 5555
อย่างที่ 6 บุ๊คก้าขอเรียกว่าชิกุวะ หรือปลาหมึกหลอด สารภาพว่าอ่านไม่ออกแปลไม่ได้ แต่กินแล้วรสคล้ายๆ ชิกุวะ (ราคา 260 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อร่อยมากๆ เลย คล้ายๆ ลูกชิ้นปลา ที่ใส่เนื้อปลาเยอะๆ เด้งๆ เหนียวๆ หนาวมัน กลมกลืม หนังกรอบนิดๆ หอมมากๆ โอ้ย!!! เขียนไปน้ำลายไหลไป
หลังจากนั้นก็เกินไปถ่ายรูปกับเสาโทริอิยักษ์สักพัก แต่ไม่ได้เดินไปศาลเจ้าลอยน้ำเพราะเดินต่อไม่ไหว สภาพร่างกายไม่พร้อมจริงๆ ใจสู้สุดๆ แต่ขาบวม เราเลยหาร้านพักนั่งกินข้าวต่อเลยดีกว่า 555 การกินแก้ได้ทุกปัญหา
อย่างที่ 7 แวะกินโอโคโนมิยากิ ที่ร้าน Okonomiyaki Sakuramaru แบบไม่ใส่หอยนางรม (ราคา 800 เยน) แบบใส่หอยนางรม (ราคา 1,250 เยน) ที่จริงภาพอาหารจะต้องน่ากินมากกว่านี้ แต่บุ๊คก้าไม่กินต้นหอม เลยไม่ได้ใส่มาในจาด้วย สีสันก็เลยดูจืดไปหน่อยนะคะ
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสชาติกลางๆ เส้นแอบแข็งไปหน่อย แต่โดยรวมก็อร่อยตามสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ ส่วนหอยนางรมค่อนข้างสด แต่ไม่ได้หวานขนาดหอยที่แกะออกจากฝานะคะ
เพื่อเป็นข้อมูลให้กันเพื่อนๆ เลยขอนามบัตรร้านมาฝากนะคะ ร้านเค้าเปิด 11.00 – 16.00 อยู่กลางซอย
พิกัดตามนี้เลยค่ะ
ส่วนเมนูทางร้านก็ง่ายๆ ตามนี้เลยค่ะ ใส่อะไรก็คิดตังค์เพิ่มวนไปตามนั้นค่ะ
พอออกจากร้านโอโคโนมิยากิ ก็เห็นคนอื่นเค้าเดินกินขนมกัน เลยเกิดอาการอยากกินบ้าง เลยแวะซื้อขนมต่อเลยที่ร้านนี้ค่ะ ที่จริงในย่านนั้นมีร้านขนมแบบนี้หลายร้านมากๆ แต่เห็นร้านนี้ดูเก่าๆ คนขายอายุเยอะๆ เลยอุตหนุนร้านนี้ดีกว่า เพราะร้านอื่นคนซื้อเยอะด้วย แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมร้านนี้คนน้อย แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราลองได้ เรื่องของกินต้องลองเองถึงรู้เนอะๆ
ที่ร้านมีขายขนมแบบนี้หลายไส้มาก แต่คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง สรุปได้ว่า น่าจะมี ถั่วแดง ชาเขียว ครีม เผือก และอื่นๆ เราเลย play safe บอกคุณป้าเค้าไปว่า Taro Taro เลยได้ใส้เผือกมากิน 555 อันละ
อย่างที่ 8 ขนมไข่สอดไส้เผือก (ราคา 70 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ คล้ายๆ ขนมไข่สอดใส่ในบ้านเรา แต่รสธรรมชาติสุดๆ แทบไม่มีความหวานของน้ำตาล แต่หวานจากเนื้อเผือกเลย ตัวแป้งจะไม่ได้ฟูมาก นุ่มกลางๆ กินแล้วได้ความรู้สึก Homemade สุดๆ
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาแวะ Atomic Bomb Dome นั่งเล่น พร้อมควักขนมที่ซื้อระหว่างทางมานั่นกินเพลินๆ
อย่างที่ 9 เยลลี่ Fettuccine gummi รสโซดา (ราคา 108 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ เอาจริงชอบรสโคล่ามากกว่า อย่างว่าอันนี้มันรสโซดาหนิเนอะ มันก็ต้องไม่ค่อยมีรสชาติเป็นธรรมดา แต่ก็เคี้ยวเพลินไปอีกแบบ นั่งดูพระอาทิตย์ ดูแม่น้ำและวิว Atomic Bomb Dome ก็เพลินดีค่ะ
และด้วยความที่ปวดเท้ามาก อยากกลับที่พักเลยซื้อของใน 7-11 ไปกินบนห้อง แต่ลืมถ่ายรูปซะงั้น 555
ขอมาต่อที่เช้าวันถัดมาเลยแล้วกันนะคะ สำหรับวันที่ 2 ด้วยความที่เมื่อคืนเข้า 7-11 เห็นของกินหลายอย่างน่าลองก็ซื้อมาเต็มไปหมด แต่นึกได้ว่าไม่อยากขนข้ามเมือง งั้นเราก็กินเป็นอาหารเช้าเลยก็แล้วกัน
อย่างที่ 10 Big Cup Noodle รสแกงกระหรี่ปู (ราคาจำไม่ได้จริงๆ)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ ขอบอกว่า มัน…..”อร่อยมากกกกกก” คือแบบ รสแกงกระหรี่กลางๆ กำลังดี ไม่เข้ม ไม่จืดจนเกินไป มีไข่นุ่มๆ และปูอัดนิ่มๆ คืออร่อยสุดๆ ขอบอกว่าคนรักปูผัดผงกระหรี่ห้ามพลาดนะคะ อิอิ
อย่างที่ 11 บะหมี่ถ้วยของ 7-11 น่าจะรสราเมนงาหมู (ราคาจำไม่ได้เช่นกัน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อันนี้ชิมไปคำเดียวเพระาของแฟน รสชาติอร่อยแบบเค็มๆ มันๆ มีผักเป็นชิ้นเป็นอันด้วย แต่บุ๊คก้าว่า รสแกงกระหรี่ปูอร่อยกว่า
อย่างที่ 12 พุดดิ้ง meiji (ราคาจำไม่ได้อีกนั่นแหละ)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ พุตดิ้งอันนี้เป็นแบบนิ่มมากๆ คนที่ชอบแบบ soft สุดๆ คงจะถูกปาก แต่บุ๊คก้าชอบแบบแข็งๆ กว่านี้ กินอันนี้แล้วไม่ชอบเท่าไหร่ มันเหลวเกินไป T_T เค้าชอบแบบบ้านๆหงะ ส่วนรสชาติก็จะออกนมๆ ไม่หวาน โดยรวมไม่แย่ แค่ไม่ถูกจริตกันมากกว่า
จากนั้นเราก็ออกเดินทางไป Outlet ต่อค่ะ วันนี้เราอยู่ MITSUI OUTLET PARK KURASHIKI กันทั้งวันเรียกว่าเดินกันแต่ห้าง ช้อปวนไปค่ะ
ไปยังไม่ทันถึง Outlet เราจะต้องผ่านห้าง Ario ก่อน ก็แวะเดินเล่น และหาของกิน ด้วยความที่ตอนเช้ากินบะหมี่คัพไป ทำให้หิวเร็ว เลยขึ้นไปหาของกินบน Food court เดินวนไปมา จบที่ 2 ร้านนี้ค่ะ
อย่างที่ 13 โซบะเย็น (ราคาแค่ 421 เยนเท่านั้น)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ มันดีงาม คือน้ำซุปหอมกลิ่นปลาย่างมากๆ รสกลมกล่อมกำลังดี เส้นเหนียวกลางๆ ด้วยราคานี้แล้วถือว่าเป็นอีกจานที่ฟินค่ะ
อย่างที่ 14 ข้าวผัดกุ้ง (ราคาประมาณ 7 ร้อยกว่าเยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ จากนี้เป็นจานของแฟนค่ะ รสกลางๆ เฉยๆ ไม่ตื่นเต้นอะไร แค่พอกินได้ค่ะ
หลังจากนั้นลงไปเดินเล่นแถวซุปเปอร์มาเก็ต เจอร้านขนมกวักมือเรียกอีกแล้ว จะช้าอยู่ใย พุงตัวไปสิคะ ^_^ (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายภาพหน้าร้านมานะคะ แค่ร้านตั้งอยู่ชั้นเดียวกันกับซุปเปอร์มาเก็ต เดินวนๆ ดูมีอยู่ร้านเดียวที่ขายขนมญี่ปุ่น มีขนมอย่างอื่นหลายอย่างนอกจากดังโงะด้วยค่ะ)
อย่างที่ 15 ดังโงะราดซอส (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสหอมหวาน ดังโงะเหนียวนุ่มกำลังดี ราดซอสหวานๆ เค็มๆ บุ๊คก้ากินคนเดียวไป 4 ไม้ ^_^
อย่างที่ 16 ดังโงะคลุกผงถั่ว (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ เนื้อดังโงะแบบเดียวกันกับแบบราสซอส คลุกผงถั่วธรรมดา ออกหวานนิดๆ ก็อร่อยดีนะ แต่ชอบแบบราดซอสมากกว่า
จากนั้นก็ไปเดินเล่นซุปเปอร์มาเก็ต ก็ได้ขนมมาหลายอย่าง เราก็เอามาทยอยกินระหว่างเดินทาง ก่อนที่จะไปช้อปที่ outlet ต่อ
อย่างที่ 17 ปลาหลอด ชิกุวะ (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ ด้วยความที่ยังอยากกินชิกุวะอยุ่ พอเห็นอันนี้ขายในซุปเปอร์เลยซื้อมาอีก 1 แพ็ค รสชาติหวานๆ เค็มๆ เนื้อปลาเยอะดี ที่จริงแพ็คนี้ราคาสูงกว่าแพ็คอื่นเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความอยากได้รสปลาเยอะ และได้เนื้อดีๆ เลยตัดสินใจซื้อแบบแพง แพ็คเล็ก ราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่นๆ หน่อย ไว้ครั้งหน้าจะลองซื้อแบบถูกกินเทียบดูอีกทีว่ารสชาติจะต่างกันเยอะไหม
อย่างที่ 18 ปูอัดผสมไข่กุ้ง (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสเหมือนปลา มีกลิ่นปูนิดๆ ชอบที่มีไข่กุ้ง ซื้อไว้กินเพลินๆ ระหว่างนั่งรถไฟค่ะ
ตอนเย็นกลับมาที่ Hiroshima เลยหาอะไรกินก่อนเบาๆ ก่อนเข้าที่พัก ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 6 ห้าง ASSE ค่ะ
อย่างที่ 19 สุกี้หมู (ราคา 1,180 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสกลางๆ ซุปไม่หวานมาก เนื้อหมูนุ่มๆ อร่อยกลางๆ ราคาไม่แพงดีด้วยค่ะ
อย่างที่ 20 ปลาย่าง (ราคา 780 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อันนี้เรียกไม่ถูกเหมือนกันว่าปลาอะไร แต่เวลาไปสั่งเราเปิดรูปให้เค้าดูตลอดว่าเอาปลาแบบนี้ เพราะที่บ้านชอบกินค่ะ เราว่าร้านนี้ย่างปลานานไปหน่อย ทำให้เนื้อค่อนข้างแข็ง และไม่ได้ย่างด้วยเตาถ่าน ทำให้ไม่หอมเท่าที่ควรค่ะ
อย่างที่ 21 หอยเชลย่าง (ราคา 750 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสกลางๆ หอยตัวไม่ใหญ่เท่าไหร่ ถ้าเทียบกับร้านซีฟู๊ดปิ้งย่างกันแบบสดๆ แบบนั้นจะอร่อยกว่า อันนี้ถือว่าสั่งมากินแก้ขัด เพราะอยากกินมาก 555
จากนั้นก่อนเข้าที่พักก็แวะ 7-11 อีกตามเคย แวะซื้อของมาตุนไว้กินวนไปค่ะ
อย่างที่ 22 น้ำอัดลม Lifegunrd (ราคาร้อยเยนนิดๆ)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสชาติเหมือนเครื่องดื่มเกลือแร่อะไรแนวๆ นั้น
อย่างที่ 23 น้ำ ZERO kcal Cider (ราคาร้อยเยนนิดๆ)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสหวานๆ เอาจริงคือ ไม่อร่อยเลยอะ เลยลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูอีกทีเพราะอยากรู้ว่าคืออะไร สรุปเป็นเครื่องดื่มที่ผสมใยอาหารที่ช่วยลดการดูดซึมของไขมันและดูดซึมน้ำตาล ให้กินหลังมื้ออาหาร โหหหห นี่พึ่งมารู้ตอนกลับมาเขียนรีวิว ไม่งั้นจะอดทนกินเข้าไปให้หมด 555
อย่างที่ 24 มันฝรั่งทอดกรอบ Calbee รสซาวครีมหัวหอม (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อร่อยค่ะ ดูปากบุ๊คก้าอีกครั้งนะคะ “อร่อยค่ะ” 555 เล่าไม่ถูก เคี้ยววนไป เอ้ย… พูดวนไปค่ะ
ต่อมาเป็นของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตบ้าง ค่ะ นี่คือถ่ายรูปกลางคืนแล้วมากินต่อตอนเช้าแทนอาหารเช้ากันเลยทีเดียว 555
อย่างที่ 25 คาปูลิโกะ รสสตรอเบอร์รี่ (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสสตรอเบอร์รี่อ่อนๆ ไม่หวานมาก ครีมนิ่มๆ รสกลมกล่อม หวานน้อยกว่าบ้านเราหน่อยค่ะ
ชอบที่นางมีครีมสูงขึ้นมาแบบนี้ ที่เมืองไทยน่าจะทำแบบนี้ไม่ได้เพราะอากาศบ้านเราร้อน น่าเสียดาย เพราะส่วนครีมที่สูงขึ้นมานี่แหละที่ทำให้ฟิน ><
อย่างที่ 26 คาปูลิโกะ รสครีมโซดาสอดไส้ช็อกโกแลค (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ บอกเลย ถ้าเจออีกจะซื้อเยอะ คือมันอร่อยมาก กินแล้วรู้สึกสดชื่น รสครีมโซดาจริงมากๆ อะ ชอบๆ
อย่างที่ 27 ข้าวเกรียบสาหร่าย (ราคา 108 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อันนี้รสทั่วไปเลยค่ะ ธรรมดามากๆ แต่ซื้อเพราะอยากกิน ^_^
อย่างที่ 28 แอปเปิ้ลเชียว (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสออกไปทางหวาน ตอนแรกนึกว่าจะหวานอมเปรี้ยว แต่ไม่ยักมีความเปรี้ยวแฮะ
หลังจากกินขนมเสร็จ (ข้าวไม่กิน 555) ก็ออกมาเดินเล่นช้อปปิ้งย่าน Hatchobori เสร็จแล้วก็แวะหาข้าวกินแถวนันเลย เราแกวะกินข้าวที่ร้านกาแฟดริป Kurashiki Coffee สาขา Hiroshima Hondori 555 เห็นเค้ามีอาหารขายด้วยเลยเดินเข้าไปในร้าน พอไปนั่งที่โต๊ะเพิ่งสังเกตุเห็นว่าทุกโต๊ะสั่งกาแฟดริปกันหมดเลย แต่ด้วยความที่เป็นคนแพ้กาแฟ และแฟนก็มีภาวะโรคหัวใจ ก็เลยไม่ได้ลองชิมกันทั้งคู่ แต่กินเป็นอาหารจานหลักแทน (ถ้าใครแวะไปแถวนั้นแล้วเป็นคอกาแฟ ก็ลองแวะไปชิมกันดูนะคะ เพราะเค้าสั่งกันทุกโต๊ะจริงๆ สงสัยจะเป็นของอร่อยห้ามพลาดค่ะ) กลับมาที่อาหารของเราดีกว่า
อย่างที่ 29 ข้าวหน้าแกงกระหรี่หมู (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสกลางๆ พอกินได้ 555 คิดซะว่ามาหาร้านสวยๆ บรรยากาศดีๆ นั่งเล่นละกัน เพราะคนที่มาที่นี้เค้าคงไม่ได้เน้นมากินข้าวแน่ๆ
อย่างที่ 30 ข้าวหน้าแกงกระหรี่หมูรสเข้มข้น (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ จานนี้อร่อยกว่าค่ะ รสเข้มข้นกินกับข้าวกำลังดี
อย่างที่ 31 มาต่อกันที่ของหวาน น้ำแข็งใสชาเขียวถั่วแดง (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ เฮ้ย….อันนี้อร่อยเลย อร่อยๆ ควรค่าแก่การลิ้มลอง ไม่หวานเลย แต่หอมมากๆ น้ำแข็งใสนุ่มสุดๆ
อ้อ ลืมบอกไป วันนี้เราเช่าจักรยานขี้เล่น เพราะเดินไม่ไหว และที่พักมีจักรยานให้เช่าก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวด้วยจักรยานแทน ปั่นเพลินจนลืมหาของกินกันเลยทีเดียว นึกได้อีกทีอ้าว 2 ทุ่มกว่าแล้ว ตายๆ ร้านหาหารจะปิดหมดแล้ว เลยไปจบที่ McDonald แล้วก็ลืมถ่ายรูปมาฝาก เพราะหิวจัดจริงๆ #เก๊าขอโทดง๊าบบบบบ
แต่ๆๆๆๆ ยังมีอย่างอื่นมาฝากนะคะ นี่คือน้ำอัดลมขวดต่อไปของเรา 555
อย่างที่ 32 Asahi Wilkinson dry cola (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ เป็นน้ำโคล่าสีขาว ใสๆ รสเหมือนโค้กเลย แต่น้ำเป็นสีขาวเหมือนโซดา
และแล้วก็เช้าวันใหม่ วันนี้เราต้องแพ็คกระเป๋าเดินทางเข้าโอซาก้าแล้ว โดยเราจะแวะเที่ยว Kobe กันก่อนเข้าที่พักในโอซาก้า วันนี้ก็รีบออกแต่เช้าอีกแล้ว เลยแวะ 7-11 ที่สถานี Hiroshima ซื้อข้าวปั้นกินบนรถไฟ เพราะมีเวลาน้อย เลยได้มาแค่คนละ 1 ชิ้น กลัวตกรถไฟ แฮะๆ
อย่างที่ 33 ข้าวปั้นหน้าหมู น่าจะเป็นหมูพะโล้อะไรแนวๆ นั้น (ราคา 140 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ เฉยๆ อะ จืดๆ ไม่ผ่านค่ะ XXX
อย่างที่ 34 ข้าวปั้นสามเหลี่ยมใส่ทูน่า (ราคา 150 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อันนี้ของแฟน นางบอกว่าอร่อย ชอบๆ ใส่ปานกลาง สาหร่ายเป็นแบบนิ่ม อันใหญ่ดีด้วย
ด้วยความที่เราไป Kobe กันแบบเบลอๆ งงๆ เพราะเปลี่ยนแผนตลอดเวลา ก็เลยนั่นรถบัสวนไปเรื่อยๆ แวะลงจุดสำคัญๆ เท่าที่พอเดินไหม สรุปได้แวะกินข้าวที่ไชน่าทาวน์ เป็นร้านธรรมดา กินเพราะอยากลองเฉยๆ ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ ร้านขายของย่านนี้ค่อนข้างแพง และรสชาติก็ xxx ก็เรามาญี่ปุ่นหนิเนอะ ใครเค้าใช้ให้มากินอาหารจีน 5555
อย่างที่ 36 ข้าวผัดหมูแดง (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ แฟนบอกแค่พอกินได้ กันตายว่างั้น
อย่างที่ 37 บะหมี่น้ำ (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ ตอนเห็นชามนี้ ผมนี่อึ่งไปเลยครับ ภาพหน้าร้านคือภาพเพื่อการโฆษณาเท่านั้น 555 ส่วนรสชาติก็กินกันตายเช่นกัน T_T
อย่างที่ 38 เซี่ยวหลงเป่า (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ T_T อยาก…จิร้องไห้…….. มันอย่างกะซาลาเปา ไม่มีอะไรดีสักอย่าง
อย่างที่ 39 อันนี้ไม่รู้เรียกว่าอะไร (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ แป้งด้านนอกเป็นหมั่นโถ ใส้ด้านในเป็นหมูสามชั้นต้มพะโล้ ตัวแป้งโอเคนะ อร่อยดี แต่หมูมันมากๆๆๆๆๆ
หลังจากเสียอารมณ์กับอาหารจีน ก็มานั่งรถวนไปวนมาดูเมืองเล่นๆ เห็นร้านนี้มีคนแวะเยอะดี เลยขอแวะพักใจก่อนดีกว่า
ตอนแรกว่าจะหาของกินในร้านนี้ แต่ปรากฏว่า นี่เป็นร้านขายของฝาก ที่มีชาให้กินฟรี และมีของหวานแถมถ้าซื้อครบตามโปร ถ้าซื้อไม่ครบ แต่ขอซื้อของหวานกินอย่างเดียวเค้าไม่ขายนะคะ เอากะเค้าสิ เราก็แบบ แบกกลับไม่ไหว เลยซื้อชิมแค่ 1 ถุง เพราะเป็นขนมข้าวพองทั้งนั้นเลย ซื้อกลับนี่มีหวังเละแน่ๆ
อย่างที่ 40 ข้าวพองคละรส (ราคา360 หรือ 390 บาทอะไรประมาณนั้น)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ ขอบอกว่า ถ้าขยันขน ร้านนี้อร่อยมาก มีให้เลือกหลายรส และราคาไม่แพง เพราะถุงใหญ่ได้เยอะ
ด้วยความที่เดินเที่ยวไม่ไหว เลยวิ่งรถไปลงที่ห้าง Kobe Harborland umie เพื่อยืมรถเข็น ให้แฟนพาเข็นเล่นในห้างดีกว่า พอเริ่มเหนื่อยก็เริ่มหาของกิน
อย่างที่ 42 ทาโกะยากิ Gindaco (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสชาติเหมือนสาขาในไทย ไม่ต่างกันเลยค่ะ อร่อยยังไง ก็อร่อยเหมือนเดิม
อย่างที่ 43 พายกรอบถั่วแดง Gindaco (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ เราว่าหวานไปหน่อย แต่แป้งอร่อยดี
จากนั้นก็เดินทางเข้าที่พักที่โอซาก้า และไปหาขนมกินใน Family mart ใกล้ๆ ที่พัก (ขนมอีกและ ครั้งนี้ไม่ค่อยกินข้าวเลย 555)
อย่างที่ 44 คาปูลิโกะ น่าจะรสบราวนี่ หรือคุกกี้นี่แหละ (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ ออกแนวหวานๆ นะ เราว่าถ้าหวานน้อยกว่านี้น่าจะดีกว่า
อย่างที่ 45 ไอติม Gri GaReeeeN รสแอปเปิ้ล (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ มันอร่อยมาก มีเม็ดสีๆ ตรงกลาง ออกแนวปลอมๆ แต่เราชอบมาก 555
อย่างที่ 45 มาม่าอัดเม็ด (ราคา 108 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อร่อยดีนะ เค็มๆ เคี้ยวเพลิน
อย่างที่ 46 ปูอัด (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อันนี้เป็นปูอัดแนวเนื้อแน่ๆ ไม่เหมือนกันก่อนหน้าที่ผสมไข่กุ้ง เราว่าแบบที่มีไข่กุ้งอร่อยกว่า แต่อันนี้เฉยๆ อะ
อย่างที่ 47 Nissin cup noodles รสต้มยำกุ้ง (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ มาญี่ปุ่นหลายวัน แฟนเริ่มคิดถึงอาหารไทย บวกกันเจอบะหมี่คัพต้มยำกุ้ง นางก็หยิบมาแบบเงียบๆ รู้อีกที่ถึงที่พักแล้วจ้า 555 ลองชิมดูก็อร่อยดีนะ ถ้าใครไปเที่ยวหลายวัน คิดถึงอาหารไทย อันนี้ก็พอแก้ขัดได้อยู่
เช้าวันต่อมา วันนี้จะออกไปเที่ยว The Momofuku Ando Instantramen Museum หรือที่คนไทยเรียกว่า พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสําเร็จรูปนั่นเอง
อย่างที่ 49 ชาผสมน้ำองุ่น (ราคาจำไม่ได้)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ ซื้อในสถานีรถไฟ Osaka >< มันหวานมาก เราไม่ไหวจริงๆ
มาถึงพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสําเร็จรูปก็เพลิดเพลินสนุกสนานกับส่วนต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์
รวมถึงการทำบะหมีกึ่งสำเร็จรูปในรูปแบบของตัวเอง (และเป็นธรรมดาที่รูปสำคัญๆ แบบนี้จะต้องถ่ายให้ไม่ชัด เชื่อว่าสาวๆ แทบทุกคนจะได้ภาพแบบนี้จากแฟนหรือสามีตัวเอง -_-‘ #มันจะไปชัดอะไรที่แบ็คกราวด์)
มาถึงที่แล้วก็ต้องกินบะหมี่สำเร็จรูปเป็นอาหารกลางวันค่ะ
อย่างที่ 50 อูด้งเต้าหูทอด (ราคา 190 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ เส้นอูด้งนุ่มกลางๆ ค่อนข้างประหลาดใจที่ลวกออกมาแล้วยังเหนียวนุ่มได้ ส่วนเต้าหู้จะพองๆ แนวๆ ฟองน้ำ โดยรวมรสเบาๆ อร่อยดี คล้ายๆ บะหมี่เจ้แบบใส่ซุปปลา 555
อย่างที่ 51 ราเมนหมูสับ (ราคา 190 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อันนี้เห็นคนอื่นกินแล้วน่ากิน เลยกดมากินเพิ่มอีกชาม คือนางอร่อยมาก ไม่เหมือนบะหมี่สำเร็จรูปเลย รสชาติจริงมากๆ เส้นอร่อย ซุปข้นกำลังดี เลิศค่ะ
อย่างที่ 52 ราเมนหมูสับ ขอเรียกว่า ทันตันเมนละกัน แฟนบอกว่ารสคล้ายๆ แบบนั้น #เดาล้วนๆ อ่านไม่ออก (ราคา 190 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสออกเผ็ดนิดๆ เค็มๆ เส้นเหมือนกับราเมนชามบน โดยรวมนางบอกว่าอร่อยดีนะ
หลังจากออกมาจากพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป เราก็กลับมาที่โอซาก้า เพราะมีไฟท์บังคับอยู่หนึ่งร้านที่ต้องมา นั่นก็คือ Gudatama cafe นั่นเอง
สารภาพว่าอิ่มมาก แต่อยากมานั่งเล่นร้านนี้ เลยสั่งน้นอยมากๆ
อย่างที่ 53 ข้าวหน้าหมู (ราคา 1,188 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ รสชาติธรรมดา หวานๆ เค็มๆ หมูน้อยไปหน่อย โดยรวมอร่อยดี แต่ถือว่าราคาสูงเพราะได้น้อย แต่เข้าใจว่าต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์การ์ตูนด้วยอะเนอะ ยอมๆ
อย่างที่ 54 โฟลทน้ำเขียว (ราคา 864 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อันนี้อร่อยดี เข้ากันทุกอย่าง มีน้ำเขียว ไอติมวนิลา มาชเมลโล่ และเวเฟอร์กรอบ อร่อยน่ารัก กินเพลินๆ หมดเร็วมาก
หลังจากนั้นก็เดินเล่นสักพัก มาเจอร้านเครป อุ้ย!!!! ของหวานอีกแล้ว แต่….เค้าอยากกินหงะ จัดไปค่ะอีกหนึ่งอัน กินคนเดียว แฟนไม่ยอมช่วยกิน
อย่างที่ 55 เครปสตรอเบอร์รี่ราดช็อกโกแลค (ราคา 421 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อร่อยดีค่ะ ไอติมไม่หวานมาก ช็อกโกแลคออกแนวขมนิดๆ เข้ากันดี กินหมดไปโดยไว 555
หลังจากที่กินต่อเนื่องมาเยอะ อิ่มมา เย็นนั้นเลยงดอาหาร แล้วกินเยลลี่แทน 5555 จากนั้นก็เข้านอน
อย่างที่ 56 Meiji Gummi Cola up (ราคา 108 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ อันนี้ไม่ค่อยมีกลิ่นโคล่าเท่าไหร่ ชอบที่ไม่หวานมาก
เช้าวันสุดท้าย เก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้านแล้วจ้า ขอจัดหนักกับร้านบุฟเฟ่ต์ Chiso Zanmai
อย่างที่ 57 บุฟเฟ่ต์ขาปู (ราคา 2,160 เยน/คน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ โดยรวมอาหารร้านนี้รสชาติกลางๆ ไม่มีอะไรอร่อยเป็นพิเศษ ความหลากหลายก็ไม่มากเท่าไหร่ Highlight อยู่ที่ขาปู แต่จะออกมาชั่วโมง สลับชั่วโมง โดยสลับกับกุ้ง (ตัวเล็กเท่านิ้วก้อน งอนมาก โปรดดูภาพประกอบในจานด้านล่าง) สรุปแล้วคิดว่าไม่คุ้มเท่าไหร่ ถ้าอยากกินขาปู ให้ไปกินร้านแถม Namba ดีกว่า เนื้อปูหวานอร่อยกว่ากันเยอะ แต่ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ ถ้าไม่กินดุมากก็จ่ายราคาไม่ต่างกันเท่าไหร่
ก่อนไปขึ้นเครื่อง แวะกินข้าวแถวสถานี Osaka กันก่อนดีกว่า ร้านนี้อยู่แถวๆ หน้าสถานี Osaka แต่แอบอยู่ช่วงทางเชื่อม อธิบายยากเหมือนกันค่ะ เราเดินวนไปวนมาจำไม่ค่อยได้เหมือนกัน แต่ชื่อร้าน Tonkotu Ramen เปิดตั้งแต่ 11.00 – 23.30 น. ค่ะ
อย่างที่ 58 Tamayu Ramen (ราคา 730 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ ราเมนซุปกระดูหมู รสออกไปทางเค็มๆ ถั่วๆ นิดๆ (ชามนี้ของแฟน นางบอกว่างั้นนะ) เนื้อหมูนุ่มๆ แต่มันเยอะไปหน่อย
อย่างที่ 59 Tukemen (ราคา 108 เยน)
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลองเมนูนี้ ราเมนแห้ง ซุปกระดูกหมู ออกแนวมันๆ แต่ไม่มาก รสเค็มๆ หอมกระดูกหมู
และนี้คือการแชร์เมนูกินดะ…!(ภาค2) แบบไม่เน้นร้านดังในแดนปลาดิบที่บุ๊คก้ารวบรวมมาชิมให้ดูนะคะ รอบนี้ของคราวน้อยไปหน่อย หนักไปที่ของหวานซะมากกว่า ยังไงครั้งหน้าสัญญาว่าจะเก็บของคราวมาฝากให้เยอะกว่านี้นะคะ อีกอย่าง ลืมถ่ายรูปไปหลายเมนูเลย ของกินมาทีไร ควบคุมสติไม่ค่อยจะอยู่ทุกที 555 รายละเอียดอาจน้อยไปหน่อย ถ้าอยากได้ข้อมูลร้านไหนเพิ่มเติมทักมาถามกันได้นะคะ ขอจบรีวิว ณ ตรงนี้นะคะ นี้ต้องขอตัวไปหาของกินต่อก่อนหละจ้า บ๊ายบาย………. ^_^ ありがとう ごさいます
ถ้าถูกใจอย่าลืมกด Like ติดตามเพจนะคะ
ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น
ร้านทาโกะยากิ ที่ถนนดงโทโบริในโอซาก้า ร้านไหนอร่อยกว่ากัน