ทริปนี้บุ๊คก้าขอแยกเป็น 6 ตอน นะคะ
เพราะว่าไปเที่ยวมาตั้ง 7 วัน แต่ละเมืองมีที่เที่ยวน่าสนใจหลายที่มากค่ะ
วันแรก เมืองเกียวโต (Kyoto 1 Day trip)
วันที่ 2 เมืองคานาซาวา (Kanazawa 1 Day trip)
วันที่ 3 เมืองทาคายาม่า (Takayama 1 Day trip)
วันที่ 4 เมืองชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go 1 Day trip)
วันที่ 5 เมืองนารา (Nara 1 Day trip)
วันที่ 6 และ 7 เมืองโอซาก้า (Osaka 2 Days trip)
ดูรายละเอียดได้จากรีวิวแต่ละตอนนะคะ
2 วันสุดท้ายในโอซาก้า เมืองท่องเที่ยวที่มี Landmark สำคัญมากมาย จนต้องออก Pass ท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า สำหรับ 2 วันที่เราจะเที่ยวในโอซาก้าทริปนี้เราจะใช้ Osaka Amazing Pass 2 Days ราคา 2,300 เยน ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดิน และเรือท่องเที่ยว สามารถเข้าสถานที่ท่องเทียวต่างๆ ฟรี และส่วนลดที่เที่ยวและร้านอาหารอีกมากมาย
Day 6 – 7 | Osaka
เริ่มเช้าวันที่ 6 เราเริ่มกันที่ Umeda Sky Building ที่นี่มีจุดชมวิวรอบโอซาก้าสูงเหนือพื้น 170 เมตร คือจุดชมวิว Kuchu-Teien แนะนำให้ไปช่วงเช้าเพราะวิวดี อากาศดี ถ้าไปช่วงเย็นจะต้องเสียค่าเข้าชมเพิ่ม
ได้เวลาใช้บัตรเบ่ง มีบัตรนี้แค่โชว์ก็สามารถเข้าที่เที่ยวได้ฟรีเลยจ้า
ภายในจะเป็นพิพิธพันธ์เล่าการสร้างอาคาร Umeda Sky Building ทั้งหมด และมีร้านกาแฟให้นั่งชมวิวไปจิบชากาแฟไปด้วย เพลินมาก
และจุดที่ 10 คือทางขึ้น จุดชมวิว Kuchu-Teien
เดินขึ้นไปก็พบกับความอลังการของสถาปัตยกรรม ในการออกแบบที่สวยมาก มาดูของจริงคือสวยกว่าในรูปเยอะ
วิวด้านบนนี้ก็ดูเพลิน แถมเค้ายังเปิดเพลงบรรเลงด้วย บรรยากาศดีสุดๆ เหมาะกับการมาขอแฟนแต่งงานมากๆ เลย
ที่นี่แอบมีมุมคล้องกุญแจคู่รักด้วยนะ คล้องกันเป็นระเบียบมากตามสไตล์ญี่ปุ่น ^_^
ดูวิวเสร็จก็ลงบันไดเลื่อนยาวๆ ที่เชื่อมระหว่าง 2 ตึกแบบนี้
โดยส่วนตัวมาโอซาก้า 3 รอบไม่เคยคิดจะมาจุดชมวิวที่นี่ เพราะรู้สึกว่าคงไม่มีอะไร แต่พอได้มาจริงๆ แล้ว คือชอบนะ บรรยากาศดี สบาย คนไม่เยอะดีด้วย
แล้วตอนแรกเรากะว่าจะไปนั่งชิงช้าแดง HEP FIVE เพราะอยู่ไม่ไกลกันมาก แต่พอดูตึกรอบๆ ที่สร้างขึ้นแล้ว เราว่ามันจะมองไม่ค่อยเห็นวิวอะไรมาก เลยเปลี่ยนใจ
ย้ายไปนั่ง Tempozan Giant Ferris Wheel ที่ใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังแทนค่ะ เพราะชิงช้าสวรรค์ที่นั้น ใหญ่กว่า และไม่มีตึกบัง เห็นวิวริมน้ำสวยเลย
มาถึงก็แวะกินข้าวในฟู๊ดคอร์ทกันก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวเล่นต่อ
ถ้าใครไม่ได้ใช้ Osaka Amazing Pass ก็สามารถจ่ายเงินขึ้นได้นะคะ 800 เยน
วิวอย่างงาม ^_^
ลงจากชิงช้าแล้วเราก็ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง Osaka Aquarium KAIYUKAN กันต่อ
ที่นี่จะใช้บัตรเบ่ง Osaka Amazing Pass เข้าไม่ได้นะคะ แต่ใช้บัตรส่วนลดที่เค้าให้มาได้ ลดคนละ 100 ส่วนพ่อแม่บุ๊คก้าอายุเกิน 65 ปีแล้ว ได้ราคาสว. จ่ายแค่ 2,000 เยน
หรือถ้าใครไม่มี Osaka Amazing Pass ก็สามารถซื้อบัตรเข้าชมล่างหน้าได้จากไทย แล้วพิมพ์ใบจองไปแสดงที่เคาน์เตอร์ก็สามารถเข้าชมได้ในราคาพิเศษ > เช็คราคาบัตรเข้าชมราคาพิเศษ
เดินผ่านประตูมาจะเจอตู้ล็อกเกอร์ให้บริการกันด้วย ใครช้อปปิ้งแล้วอยากมาเที่ยวที่นี่ต่อสบายใจได้ ไม่ต้องหิ้วของให้หนัก ฝากไว้เลยจ้า
นอกจากนั้นยังมีเครื่องอธิบายสัตว์น้ำต่างๆ ให้เช่าด้วย แต่ไม่มีภาษาไทยนะคะ
ได้เวลาท่องโลกใต้ทะเลยกันแล้วค่ะ
เดินเข้าไปนึกว่าจะเจอโลกใต้ทะเล ปรากฎ เจอป่า 555 แอบงงนิดหน่อย แต่ก็เดินต่อไป
พอเดินเลยโซนป่าไปก็จะเจอกับถังปลา ปลา ปลา จำนวนมาก แต่นอกจากปลา ก็มีสัตว์อื่นนะคะ พวก นกน้ำ แมวน้ำ เดินดูไปเรื่อยๆ จนตาลาย
แนะนำมุมนี้ ถ่ายรูปได้ ถ่ายบูมเมอร์แรงก็น่ารัก เพราะเจ้าแม่งกระพุนจะดุ๊กดิ๊กตลอดเวลา
เดินออกจากโซนใต้ทะเลก็ออกมาเจอเจ้าแพนกวิ้น น่ารักๆ แบบนี้
และมีโซนให้ลองจับปลากระเบน และปลาฉลามด้วยค่ะ
เราใช้เวลาในไคยูคังอยู่ 3 ชั่วโมง ออกมาดึกเลย แล้วช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว ในญี่ปุ่นเค้าจะประดับไฟกัน ที่นี้ก็มีไฟประกับ และมีโชว์ไฟตอน 2 ทุ่มด้วยค่ะ
พอออกจากไคยูคังเราก็นั่งรถไฟไปนัมบะกันต่อ ไม่ได้ไปเที่ยวนะ แต่ไปช้อปปิ้ง เพราะมีสิ่งที่ต้องช้อป และไปหาของกินก่อนเข้าที่พัก
เช้าวันสุดท้าย เราลากกระเป๋าลงมาเช็คเอ๊าท์แล้วฝากไว้ที่โรงแรม รีบออกเดินทางไปปราสาทโอซาก้ากันค่ะ
ปราสาทโอซาก้าเป็น Landmark ที่มาถึงโอซาก้าแล้วต้องมาให้ได้ ทางเดินไปปราสาทโอซาก้าไปได้หลายทาง แต่เราชอบเดินผ่านสวนสาธารณะเพราะบรรยากาศดี
ค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ ก็จะถึงทางเข้าปราสาท แนะนำให้เปิด Google map เดินจะง่ายกว่าดูแผนที่ธรรมดาค่ะ เพราะมีทางเข้าเยอะมาก
มาถึงแล้วค่ะ ปราสาทโอซาก้า หรือ Osaka Castle
ปราสาทโอซาก้า เป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ขอเล่าประวัติให้ฟังกันสักหน่อย ปราสาทนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่อยู่ของผู้บัญชาการกองกำลังในสมัยเซ็นโกคุ หรือยุคสงครามรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว ใช้เวลาสร้าง 16 ปีถึงจะเสร็จ เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น แต่ปราสาทโอซาก้ากลับถูกเผาไปพร้อมกับการล่มสลายของตระกูลโทโยโทมิ ผู้บัญชาการกองกำลัง โดยตัวกำแพงหินได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในสมัยเอโดะ ส่วนตัวปราสาทก็ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากนั้น และได้รับการดูแลอย่างดีในถึงปัจจุบัน
ปราสาทนี้มีทั้งหมด 8 ชั้น ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประหัวผู้บัญชาการกองกำลัง ของใช้โบราณ และร้านขายของที่ระลึก
และจุดชมวิวจากชั้นบนสุดของปราสาทโอซาก้า
หลังจากชมประวัติศาสตร์กันเสร็จแล้วเราก็ไปช้อปปิ้งกันต่อค่ะ นั่งรถไฟไปลงชิไซบาชิ แล้วเดินช้อปกันยาวๆ ไปเลย
เดินมาจนถึงคลองโดทงโบริ (Dotonbori) ก็แวะถ่ายรูปกับพี่ Glico สักหน่อย
แล้วเราก็ใช้บัตรเบ่งของเรา นั่งเรือชมคลองสายนี้กันต่อค่ะ
ท่าขึ้นเรือจะอยู่หน้า Don Quijote Dotonburi ให้แสดง Pass เพื่อรับบัตรนั่งเรือก่อน
แล้วค่อยไปลงเรือค่ะ
เจ้าหน้าที่ให้คำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ และญี่ปุ่น อธิบายบ้านเรื่อง 2 ฝั่งคลองตลอดสาย นั่งเรือในคลองญี่ปุ่นแบบนี้ก็เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ
เอาหละ เราก็เที่ยวกันมา 7 วันแล้ว ถึงตอนนี้ก็ได้เวลาลากกระเป๋ากลับบ้านกันแล้ว หวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองนะคะ ถ้าอ่านแล้วสงสัยส่วนไหนก็ทักมาถามกันได้ที่ www.facebook.com/BookcaMaShare นะคะ เพราะบางส่วนอาจไม่ได้ลงข้อมูลละเอียดกลัวจะงงกัน เอาเป็นว่าแชร์ข้อมูลให้เป็นไอเดียเที่ยวกับก่อน อยากรู้อะไรเพิ่มทักมาถามกันได้เลยจ้า
Pingback: เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง 6 เมือง 7 วัน 8 คืน 30,999 บาท | รีวิว × ฮาวทู : ของกิน-ท่องเที่ยว-ช้อปปิ้ง Bookca Ma sh
Pingback: รีวิว: พาครอบครัวเที่ยวญี่ปุ่น 6 เมือง 7 วัน 8 คืน [วันที่ 5 เที่ยว Nara 1 วัน] | รีวิว × ฮาวทู : ของกิน-ท่อ
Pingback: รีวิว: พาครอบครัวเที่ยวญี่ปุ่น 6 เมือง 7 วัน 8 คืน [วันที่ 4 เที่ยว Shirakawa-go 1 วัน] | รีวิว × ฮาวทู : ของกิน-
Pingback: รีวิว: พาครอบครัวเที่ยวญี่ปุ่น 6 เมือง 7 วัน 8 คืน [วันที่ 3 เที่ยว Takayama 1 วัน] | รีวิว × ฮาวทู : ของกิน-ท
Pingback: รีวิว: พาครอบครัวเที่ยวญี่ปุ่น 6 เมือง 7 วัน 8 คืน [วันที่ 2 เที่ยว Kanazawa 1 วัน] | รีวิว × ฮาวทู : ของกิน-ท
Pingback: รีวิว: พาครอบครัวเที่ยวญี่ปุ่น 6 เมือง 7 วัน 8 คืน [วันแรก เที่ยว Kyoto 1 วัน] | รีวิว × ฮาวทู : ของกิน-ท่อ