เช้าวันที่ 3 วันนี้เราต้องตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะเราจะใช้ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass นั่งรถไฟชิงคันเซนจาก Kanazawa ไปลง Toyama เพื่อต่อ Local Train ไป Takayama กันค่ะ จาก Kanazawa ไป Toyama ขึ้นได้เฉพาะ Shinkansen ตู้ non-reserve ซึ่งจะมีเฉพาะขบวน Hakutaka และ Tsurugi , ส่วนขบวน Kagayagi มีแต่ตู้ reserve เท่านั้น ถ้าขึ้นไปต้องจ่ายตังค์เพิ่มนะคะ

Day 3 | Takayama

รถไฟไป Takayama มีรอบจำกัด และเว้นเวลาห่านกันเป็นชั่วโมง ฉะนั้นไม่ควรพลาดรถไฟ ไม่งั้นต้องรอกันยาวเลย

การเดินทางจากคานาซาวา ไป ทาคายาม่า ด้วยรถไฟจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ พอๆ กับนั่งรถบัสไปค่ะ ที่วันนี้เราเลือกใช้รถไฟ เพราะยังไงพรุ่งนี้เราต้องนั่งรถบัสไปชิราคาวาโกะอยู่แล้ว เลยไม่อยากเดินทางซ้ำวิวเดิมๆ อีกอย่างคือวิวข้างทางรถไฟสาย Local ไปทาคายาม่าเป็นเส้นทางที่มีวิวสวยๆ ให้ดูตลอดทางด้วยค่ะ เรียกว่านั่งกันยาวๆ ยังหลับไม่ลงเลย โดยเฉพาะวันที่หิมะตกเบาๆ แบบนี้ ยิ่งทำให้บรรยากาศดี๊ดีไปกันใหญ่

และแล้วเราก็มาถึงสถานีทาคายาม่ากันแล้วค่ะ พยากรณ์อากาศวันนี้บอกว่าหิมะจะตกถึงประมาณ 10 โมงกว่า  หลังจากนั้นจะกลายเป็นฝน ตกไปจนช่วงบ่ายเลย สภาพอากาศวันนี้ไม่ค่อยเข้าข้างเราสักเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ต้องไปต่อ

เมืองทาคายาม่าเป็นเมืองเล็กๆ ที่ผสมผสานกันระหว่างบ้านเรือนแบบโบราณกับบ้านสมัยใหม่ สถานที่ส่วนใหญ่เป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนะธรรม และประวัติศาสตร์ รวมถึงวัดด้วยค่ะ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าชอบเที่ยวแบบไหนก็เลือกกันได้เลย

สำหรับทริปเบาๆ แบบเรา เที่ยวกันแบบไม่รีบร้อน เที่ยวไปเรื่อยๆ ด้วยการเดิมชมเมืองในย่านและจุดสำคัญต่างๆ ตามเส้นทางในภาพนี้

จุดหมายแรกของเราคือ Hida Kokubun-ji Temple วัดเล็กๆ เงียบสงบ ที่สวยทุกฤดู เพราะถ้ามาในช่วงเข้าหน้าร้อน จะมีต้นบ๊วยและซากุระออกดอกให้ดูกันด้วย

และเมื่อหิมะตก วันนี้ก็ดูมีเสน่ห์ไม่เบา

ไหว้พระขอพรกันเสร็จแล้วเราก็มุ่งหน้าตรงไปตลาดเช้าริมน้ำกันต่อ ตลาดเช้า Miyakawa Morning Market เป็นตลาดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาช้อปปิ้งของกิน ของใช้ ของฝากมากที่สุดในทาคายาม่า ตลาดนี้เปิดตั้งแต่ประมาณ 6.30 น. และเริ่มทยอยเก็บร้านกันประมาณ 11.30 น. พอเที่ยว ร้านค้าข้างทางที่เป็นเต้นสีขาวๆ ก็หายไปหมดเลย จะเหลือแค่ร้านที่เป็นอาคารเปิดอยู่บ้างนิดหน่อย ใครอยากมาเดินเที่ยวตลาดนี้ต้องมาช่วงเช้าเท่านั้นนะคะ

ไม่น่าเชื่อว่าเราจะใช้เวลาเดินตลาดนี้เกือบ 2 ช่วงโมง เพราะตลาดดูไม่ใหญ่ เป็นแค่ช่วงถนนช่วงเดียว แต่ด้วยความแวะแทบทุกร้าน ซื้อของฝาก และชิมของไปเรื่อยๆ เพลินๆ จนลืมเวลาไปเลยค่ะ เลยปิดท้ายตลาดนี้ด้วยราเมนสไตล์จีนๆ ที่ร้านหัวมุมสุดตลาด ก่อนไปเที่ยวกันต่อ

จากนั้นเราเดินย้อนกลับมาอีกซอยที่ถัดจากตลาด เพื่อไป Takayama Old Town กันต่อ ระหว่างทางผ่านมาเจอร้านขายของฝากเกร๋ๆ แถมมีห้องน้ำให้เข้าด้วย เลยแวะช้อป แวะชมกันสักเล็กน้อย 

Takumi Kan เป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นล่างขายของฝากทั้งของกินและของใช้ จานชาม อาหาร งานฝีมือมีหมดค่ะ ชั้น 2 เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ และของแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นและโมเดิร์น สวยมาก เดินแล้วอยากได้ ส่วนชั้น 3 เป็นร้านอาหาร แต่เราไปถึงประมาณบ่ายโมง เค้าปิดแล้ว ไม่มีเวลาบอกเหมือนกันว่าเปิดเวลาไหนยังไงบ้าง

ออกมาจากร้านทาคุมิเคน เดินตรงไปอีกนิดเดียวเราก็มาถึงย่านเมืองเก่าทาคายาม่าแล้วค่ะ

ถนนเส้นนี้ทั้งเส้นเป็นถนนคนเดินที่มีร้านค้า 2 ข้างทางตลอดทั้งสาย

อาหารยอดนิยมที่มาถึงแล้วต้องได้ลิ้มลองคือ เนื้อฮิดะ เป็นเนื้อเกรดดีสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นของดีในย่านทาคายาม่า แต่บ้านเราไม่กินเนื้อกันหมดทุกคน เลยข้ามจุดนี้ไป

เป้าหมายของเราอยู่ที่ร้านนี้ค่ะ

ร้านสาเกที่รวมสาเกหลากหลายแบบไว้ให้เลือกช้อป

ที่สำคัญมีสาเกให้ชิมด้วย

แต่ไม่ได้ชมฟรีนะคะ ต้องซื้อถ้วยแบบนี้ ใบละ 300 เยน เพื่อชิมสาเกค่ะ ได้ถ้วยมาแล้วก็เลือกเทชิมได้ตามใจ บ้านเราชิมกันหมดทุกขวดแล้ว ลงความเห็นว่า พวกที่อร่อยๆ คือแถวบนสุด ส่วนแถมอื่นๆ 5555 กินยากมากเลยค่ะ

คัมไป เลือกที่ชอบแล้วมานั่งจิบเบาๆ ชนแก้วกันซักหน่อย จากที่หนาวๆ เพราะฝนตกเมื่อกี้นี้ อุ่นขึ้นเยอะเลยค่ะ

แนะนำเลย ใครชอบอะไรแบบนี้ แวะมาลองชิมกัน สนุกและได้บรรยากาศมากค่ะ

ชิมสาเกเสร็จฝนก็ยังไม่หยุดตก T_T ก็ต้องออกมาเดินตากฝนกันต่อไป จุดหมายต่อไปของเราก็คือ สะพานแดง Nakahashi

เป็นสะพานที่นิยมมาถ่ายรูปกันค่ะ คนเยอะมาก ฝนตกด้วย ถ่ายยากสุดๆ ใครอยากมาถ่ายรูปสบายๆ แนะนำว่าให้มาเช้าๆ จะดีกว่า คนจะได้ไม่เยอะ

เดินข้ามสะพายมานิดนึง เราจะเจอกับ อาคารสำนักงานว่าการเมืองโบราณ ทาคายามะจินยะ (TakayamaJinya)  สำนักงานว่าการแห่งนี้เป็นสำนักงานเดียวที่เหลืออยู่ในญี่ปุ่น ในอดีตมีทั้งหมด 60 แห่งทั่วประเทศ จนมีการเปลี่นการปกครอง มีการปรับการจัดการบ้านเมืองกันไป โดย ทาคายามะจินยะ แห่งนี้ยังคงได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิม แบบเดียวกับยุคก่อน เรียกได้ว่าโบราณแท้แน่นอน

ส่วนลานด้านหน้าก็ยังเป็นตลาดเช้าอีกแห่งในทาคายาม่าด้วยค่ะ แต่เป็นตลาดที่เล็กกว่าตลาดริมน้ำ และปิดเร็วกว่า ประมาณ 10 โมงตลาดก็วายแล้ว

ด้วยความที่ฝนยังตกไม่เลิก เราเลยตัดสินใจกันว่าจะหาร้านนั่งกินขนมกันดีกว่า เพราะด้านนอกหนาวมากเกินไปแล้ว เลยเดินกลับทิศที่จะไปสถานีรถไฟ ผ่านสะพานอีกจุดที่เป็นสะพานคู่กับสะพานแดง นั้นคือสะพานเขียวนั่นเอง 555

เดินเลยสะพานเขียวมาหน่อย ก็เจอร้านขายดังโงะกับไอติม เอาหละกินร้านนี้แหละ ดูเก่าๆ ดี แพ้ทางอะไรแนวๆ นี้ ร้านสวยๆ โมเดิร์นๆ ตั้งเยอะไม่กิน

ร้านนี้ไอติม ดังโงะ และกาแฟ ดังโงะที่ทาคายาม่า เค้าจะไม่ราดซอสกันนะคะ เห็นหลายร้านเสิร์ฟเปล่าๆ แบบนี้เลยค่ะ ส่วนไอติมก็นมๆ อร่อยดีค่ะ 

หาของกินกันเสร็จเราก็เดินกลับไปสถานีรถไฟทาคายาม่า ระหว่างทางก็ยังมีแวะซื้อผลไม้ และของฝากเป็นระยะ 555 ช้อปกันหนักมาก งงตัวเองเหมือนกัน ทำไมมีแต่ช้อปกับช้อป แต่ของเค้าน่าซื้อจริงๆ โดยเฉพาะพืชผักผลไม้ ดูน่ากินไปหมด เดินแวะไปเรื่อยจน 5 โมงเย็นก็ได้เวลาไปรอขึ้นรถไฟ กันแล้ว ข้อควรระวัง อย่าได้ตกรถไฟเด็ดขาดนะคะ เพราะรถไฟรอบย็นถ้าเลยรอบ 5 โมงกว่าไปแล้ว ต้องรอรถไฟรอบสุดท้าย 20.30 น. โน้นเลยค่ะ สรุปวันนี้เรากลับถึงคานาซาวาเกือบ 2 ทุ่ม หาข้าวกินแล้วเข้านอนเร็ว เพราะเพลียฝนมาก

สำหรับทาคายามา 1 Day Trip ก็จบลงแบบชิลๆ อันที่จริงเที่ยวทาคายาม่า เที่ยวได้หลายแบบ หลายสไตล์ เพราะยังมีวัดบนเขา มีจุดชมวิว มี Hida-Takayama ที่นั่งรถออกไปเที่ยวได้กลับได้อีก และยังมีกระเช้าชมวิว มีออนเซนอีก ทาคายาม่า มีที่เที่ยวให้เลือกมากกว่าเป็นแค่เมืองทางผ่านไปชิราคาวาโกะอีกเยอะเลยค่ะ

พรุ่งนี้เราจะไปต่อกันที่ชิราคาวาโกะ เมืองมรดกโลก เมืองในฝัน ที่คนรักญี่ปุ่นต้องขอไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิตกันค่ะ ^_^

วันที่ 4 เมืองชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go 1 Day trip)

หวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองนะคะ ถ้าอ่านแล้วสงสัยส่วนไหนก็ทักมาถามกันได้ที่ www.facebook.com/BookcaMaShare นะคะ เพราะบางส่วนอาจไม่ได้ลงข้อมูลละเอียดกลัวจะงงกัน เอาเป็นว่าแชร์ข้อมูลให้เป็นไอเดียเที่ยวกับก่อน อยากรู้อะไรเพิ่มทักมาถามกันได้เลยจ้า